"นิโรธ"เชื่อบารมี "บิ๊กป้อม"พูดคุย "ธรรมนัส-พรรคเล็ก" เรื่องเสียงโหวตซักฟอก
เมื่cวันที่ 18 ก.ค. 65 ที่รัฐสภา นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคเศรษฐกิจไทย ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลนั้นจะกระทบเสียงการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ว่า พรรคเศรษฐกิจไทยจะค้านหรือโหวตอย่างมีคุณภาพ ซึ่งก็ต้องฟังเป็นเรื่องๆไป ตนมั่นใจว่าพรรคเศรษฐกิจไทย ดีเอ็นเอเป็นฝ่ายรัฐบาล และทั้งหมดอยู่ที่บารมีของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐที่จะพูดคุยในเรื่องเสียง เพราะว่าพื้นฐานของส.ส.พรรคเศรษฐกิจไทย ก็มาจากพรรคพลังประชารัฐ แต่ทั้งนี้จะต้องไม่เป็นการไปก้าวก่าย ซึ่งตามข่าวพล.อ.ประวิตร ก็ระบุว่าให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า แต่มี ส.ส.ของพรรคเล็กหลายคนระบุว่า จะไม่โหวตให้รัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ และในรัฐบาลหลายคน นายนิโรธ กล่าวว่า เท่าที่ตนได้รับฟังจากพรรคเล็ก ก็ยังไม่ได้ยืนยันหรือระบุหนักแน่นถึงขนาดนั้น ทราบว่าจะขอรับฟังคำชี้แจงของแต่ละท่านๆไป และตนคิดว่าพรรคเล็กจะโหวตหรือลงมติอะไร ก็ทำแบบมีคุณภาพ คำนึงถึงเกียรติภูมิ ศักดิ์ศรีของการเป็นผู้แทนราษฎร
เมื่อถามย้ำว่า มีหลายคนระบุว่า จะโหวตไม่ไว้วางใจพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย รวมถึงรัฐมนตรีอื่นๆที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ นั้นจะมีการควบคุมเสียงอย่างไร เพื่อให้รัฐมนตรีผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายนิโรธ กล่าวว่า ตนยังมั่นใจว่ารัฐมนตรีแต่ละคนที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ในการอภิปรายครั้งนี้ ส่วนที่พรรคเศรษฐกิจไทยจะไปร่วมอภิปรายด้วยนั้น ต้องฟังดูว่าเขาจะตกลงกันอย่างไรกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพราะตอนนี้ยังไม่มีการตอบรับเรื่องของเวลา
เมื่อถามย้ำว่า หากพรรคฝ่ายค้านมีการตอบรับแล้ว วิปรัฐบาลจะมีการปรับแผนอย่างไร นายนิโรธ กล่าวว่า คงไม่มีการปรับแผนอะไร เพราะแผนของเราได้เดินไปอย่างรัดกุมแล้ว และการอภิปรายเป็นหน้าที่ของผู้แทนอยู่แล้ว อีกทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้านที่จะต้องทำหน้าที่ ในเมื่อพรรคเศรษฐกิจไทยจะไปทำหน้าที่นิติบัญญัติอย่างเป็นอิสระไม่ขึ้นตรงกับฝ่ายค้านโดยตรง ก็จะต้องมีหน้าที่ในการอภิปราย แต่ระเบียบในการจัดการอภิปรายฯตามการทำงาน ถึงแม้จะไม่ได้เป็นกฎหรือข้อบังคับ แต่เป็นการจัดการเรียบร้อยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาฯ จึงต้องมีการแบ่งเวลากัน โดนฝ่ายค้านได้เวลา 45 ชม. ดังนั้นก็ต้องไปบริหารจัดการเวลา โดยคนที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็ต้องไปใช้เวลาในส่วนนั้น
เมื่อถามถึง เสียงในการลงมติของพรรคเล็ก โดยเฉพาะเสียงกลุ่ม 16 จะมีผลต่อรัฐบาลหรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า ทุกเสียงมีผลกับรัฐบาล เมื่อถามต่อว่า แบบนี้สามารถควบคุมได้หรือไม่ เพราะเขายังไม่ยืนยันว่าจะลงมติไปในทิศทางใด นายนิโรธ กล่าวว่า กลุ่มพรรคเล็กทั้งหมด ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ที่ผ่านมาก็ได้มีการไปพบกับผู้หลักผู้ใหญ่ ดังนั้นก็ต้องฟังดูในบารมีของท่าน
เมื่อถามว่า แบบนี้จะมั่นใจหรือไม่ ว่าทั้งเสียงของพรรคเศรษฐกิจไทย และกลุ่มพรรคเล็ก จะมีผลทำให้เกิดอุบัติเหตุในการลงมติหรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า ตนมั่นใจไม่มีอุบัติเหตุเสียงลงมติไม่เกินกึ่งหนึ่งและเชื่อมั่นว่ารัฐมนตรีทั้ง 11 คน จะผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ไปได้
เมื่อถามถึง กรณีที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล มีการเผยแพร่ภาพและทีเซอร์ให้ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ นายนิโรธ กล่าวว่า ตนจะหาซื้อบัตรยังซื้อไม่ได้เลย เพราะไม่รู้ว่าจะให้จองที่ไหน และบัตรราคาเท่าไหร่ เพราะในทีเซอร์ก็ไม่ได้เขียนไว้ ทั้งนี้การอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 เป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน และต้องให้ความสำคัญกับการอภิปรายครั้งนี้ เพราะว่าเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพื่อชี้ให้ประชาชนเห็นว่ารัฐบาลทำหน้าที่บกพร่องในการบริหารราชการแผ่นดินอย่างไร ดังนั้นการอภิปราย ต้องเป็นไปด้วยเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีความเป็นผู้แทนราษฎร ไม่ใช่การแสดง ดังนั้นจะเห็นว่าการปล่อยทีเซอร์ หรือคลิปวีดีโอต่างๆ ออกมาของฝ่ายค้านนั้น เป็นการแสดง เอาเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจของประเทศ มาเป็นเรื่องล้อเล่น เป็นการแสดง ตนคิดว่าไม่เหมาะสม เรื่องนี้เป็นเรื่องของประเทศชาติ จะทำเป็นเรื่องสนุก หรือตลกคาเฟ่ หรืออะไรนั้น ตนคิดว่าไม่ใช่