"นิโรธ"ลั่นดีเอ็นเอ "เศรษฐกิจไทย" คือรัฐบาล

2022-07-16 13:46:45

"นิโรธ"ลั่นดีเอ็นเอ "เศรษฐกิจไทย" คือรัฐบาล

Advertisement


"นิโรธ"ลั่นดีเอ็นเอ "เศรษฐกิจไทย" คือรัฐบาล ไม่ใช่ฝ่ายค้าน

เมื่อวันที่ 16 ก.ค.65 นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวของพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) และกลุ่ม 16 ขู่โหวตล้มรัฐมนตรีบางคน มองว่ามีนัยทางการเมืองอะไรหรือไม่ ว่า ตนไม่ขอแสดงความเห็นต่อ พ ศท. ส่วนกลุ่ม 16 นั้นแถลงว่าจะยังอยู่ร่วมรัฐบาล และเห็นว่าไปร่วมงานวันเกิดของนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ส.ส.ชลบุรี และ ผอ. พปชร. ที่จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา และนายสุชาติ ก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า จะสามารถคุมเสียงในสภาผู้แทนราษฎรให้โหวตผ่านรัฐมนตรีทั้ง 11 คนหรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า ผ่านหมด และเชื่อมั่นว่าเสียงโหวตจะเกินครึ่งทุกคน แต่ไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขว่ามีเสียงเท่าใดได้ ทั้งนี้ รัฐมนตรีแต่ละคนคงได้คะแนนไม่เท่ากันทุกคน เพราะคะแนนเป็นไปตามธรรมชาติ

เมื่อถามถึง ท่าทีของพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่เปิดโอกาสให้ ศท. ร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย นายนิโรธ กล่าวว่า  พท. คงได้รับสัญญาณอะไรบางอย่าง ทั้งที่ทีแรกยังออกมาตีกันอยู่เลย ถึงกับปรามาสว่าเป็นเห็บเป็นเหา ตนคิดว่า ดีเอ็นเอของ ศท. ไม่ใช่ฝ่ายค้าน แต่เป็นฝ่ายรัฐบาล เพราะแยกมาจาก พปชร. เนื้อแท้เป็นรัฐบาล การจะไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ดีเอ็นเอเรียงกันไม่ได้ เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ไม่ไว้ใจให้  ศท. ร่วมอภิปรายด้วย เพราะยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค พปชร. นั้น นายนิโรธ กล่าวว่า ตนจึงบอกว่าพรรค ศท. มีดีเอ็นเอต่างกับฝ่ายค้าน

เมื่อถามว่า จะพูดคุยกับ ศท. เพื่อให้ช่วยโหวตหรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า ตอนที่นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เลขาธิการพรรค ศท. ลาออกจากวิปรัฐบาล ได้โทรหาตน และบอกว่าจะขอออกไปทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติอย่างสบายใจ เพราะบางครั้งต้องโหวตไปตามเสียงสนับสนุนของคนในพื้นที่ภาคเหนือที่มีการผลิตสุราพื้นบ้านเยอะ โดยโหวตผ่านกฎหมายสุราก้าวหน้า ตรงข้ามกับมติวิปรัฐบาล นอกจากนี้ นายไผ่ ยังบอกกับตนว่าหากมีอะไรจำเป็นและสำคัญให้โทรประสาน รวมถึงการโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย ซึ่งก็คงจะทำเป็นครั้งๆ แต่ต้องรอดูท่าทีพรรค ศท. ก่อนการโหวตในวันที่ 23 ก.ค.นี้ ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด