"ธรรมนัส"ลั่นเป็นฝ่ายค้าน 100 เปอร์เซ็นต์

2022-07-13 21:27:53

"ธรรมนัส"ลั่นเป็นฝ่ายค้าน 100 เปอร์เซ็นต์

Advertisement

"ธรรมนัส"ลั่นเป็นฝ่ายค้าน 100% เคลียร์ "บิ๊กป้อม" เข้าใจแล้ว มีรั้งแต่ไม่ได้ขอให้โหวตช่วยใครในศึกซักฟอก 

เมื่อวันที่ 13 ก.ค.65   ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซต์ไทยแลนด์ ถึงการถอนตัวจากการร้วมรัฐบาล พร้อมประกาศเป็นฝ่ายค้านหลังพ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อมส.ส.ลำปาง เขต4ว่า ว่า รู้ตัวเองดีว่าในการเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง เกิดอะไรขึ้น ผลที่ออกมาเราไม่คาดคิดว่าจะออกมาอย่างนี้ ทำให้ตนเองกับคณะกรรมการบริหารพรรค ต้องมานั่งทบทวนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเราย้อนไปดูปัจจัยเมื่อปี 2562 เราทราบข้อมูลว่าฐานคะแนนของเราอยู่ที่ 30,368 คะแนน แต่โดยภาพรวมคะแนนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ใน จ.ลำปางจะได้กว่า 140,000 คะแนน ทำให้รู้ว่าฐานเรามีเท่านี้มันขายไม่ได้ แต่เมื่อการเลือกตั้งซ่อมปี 2563 มีปัจจัยหลายอย่าง ผลงานของรัฐบาล โดยเฉพาะจัดสรรที่ดินทำกิน การแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์จากผลงานของรัฐบาล ซึ่งเราได้ประมาณ 61,914 คะแนน พรรคเสรีรวมไทยได้ 38,336 คะแนน แต่การเลือกตั้งครั้งนี้คะแนนมันสวิงกลับ เราคงไปโทษรัฐบาลไม่ได้ แต่เราลงพื้นที่เราทราบว่าประชาชนบ่นกับทางตน ซึ่งผู้นำท้องถิ่นเป็นคนที่ตนวางเอาไว้ทั้งนั้น ประชาชนเขาบ่นว่าไม่ค่อยสบายใจในเรื่องความไม่ชัดเจนของพรรคเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะตัวของผมเอง ว่าสรุปแล้วอยู่ฝ่ายใดกันแน่ ส่วนพรรคเสรีรวมไทยเขาหาเสียงประเด็นเดียวคือจุดยืนที่ไม่แน่นอนของพรรคเศรษฐกิจไทย ซึ่งทำให้เราพ่ายแพ้ในครั้งนี้ แต่สิ่งที่ทำให้เราสบายใจอยู่คือฐานคะแนนเสียงของเรายังเท่าเดิม  การต่อสู้ตรงนี้ จึงเป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายรัฐบาลซึ่งประชาชนภาคเหนือตอนบน อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน แม่ฮ่องสอน และลำปาง เขาไม่เอารัฐบาล

เมื่อถามว่า เมื่อประชาชนภาคเหนือตอนบนไม่เอารัฐบาล ทำให้พรรคเศรษฐกิจไทยต้องไปร่วมงานฝ่ายค้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่ตนถูกขับออกจากรัฐมนตรี ก็ประกาศชัดเจนว่าอยู่ข้างประชาชน แต่ประชาชนไม่เข้าใจหรอกว่าอยู่ข้างประชาชน เพราะยังเห็นการโหวตเรื่องงบประมาณปี 2566 ดังนั้นจึงต้องประกาศให้ชัดเจนว่าจะมาทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้รพรรคเศรษฐกิจไทยต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจนเลยว่า เราควรจะทำให้หน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติให้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ไปเลย ทั้งนี้ตนไม่ได้ว่าตนดี ตั้งแต่เป็นรัฐมนตรี จนออกจากรัฐมนตรี ตนเป็นนักการเมืองที่อยู่ในพื้นที่มาตลอด ไม่ใช่เฉพาะภาคเหนือ ภาคอีสาน ตนเดินทางทุกจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัด เราจึงรับทราบความรู้สึกของประชาชนดี วันนี้ประเทศเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดจากการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งว่าที่ผู้สมัครของพรรคเศรษฐกิจไทย ทั้ง 76 จังหวัด สะท้อนมาว่าเราควรแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน เพราะประชาชนเบื่อหน่ายหลายเรื่อง โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ ดังนั้นถามว่าจะทำให้เราเสียมวลชนจากภาคอื่นหรือไม่ ตนมีความมั่นใจว่าเสียงสะท้อนจากว่าที่ผู้สมัครของเรา คือเสียงสะท้อนจากประชาชน

เมื่อถามอีกว่า การประกาศร่วมทำงานกับฝ่ายค้านหมายถึงการทำงานกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราให้นายไผ่ ลิกค์ ส.ส. กำแพงเพชร นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ลาออกจากวิปรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาเราเป็นต่อเนื่องมาตั้งแต่เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แต่เมื่อเราออกมาแล้วก็ควรให้มันชัดเจน ตามมารยาททางการเมือง วันนี้ผู้นำฝ่ายค้านยังไม่ได้คุยกับเรา เราจึงยังไม่ได้เป็นฝ่ายค้าน แต่มันอยู่ในขั้นตอนต่อไปที่ต้องคุยกันต่อ 

เมื่อถามว่า ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึงจะทำงานร่วมกับฝ่ายค้านเลยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราประกาศว่าเราทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายนิติบัญญัติ มันก็คงทำงานในทิศทางเดียวกันกับฝ่ายค้าน

“ผมได้คุยทางโทรศัพท์และเรียนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชัดเจนแล้วว่า ขออนุญาตประกาศจุดยืนของพรรคอย่างชัดเจน ซึ่งได้ชี้แจงแล้ว ผมเล่าให้ฟังว่าผลการเลือกตั้งซ่อม จ.ลำปาง ว่าเกิดอะไรขึ้น เราเหมือนพรรคอยู่ตรงกลางของเขาควายสองข้าง มันไม่ชัดเจน ฝ่ายรัฐบาลเขาไม่ได้สนับสนุนเรา และเราไม่ได้ประโยชน์อะไรจากฝ่ายรัฐบาล อีกทั้งยังถูกกระทำหลายเรื่อง ผมไม่อยากพูดตรงนี้ อีกข้างของเขาควายเขาก็ไม่ได้สนับสนุนเรา ดังนั้น ไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะมานั่งตรงกลางของเขาควาย ดังนั้นจึงต้องเลือกข้างให้ชัดเจน ผมก็ได้เรียนพล.อ.ประวิตร ซึ่งพล.อ.ประวิตร มีความเข้าใจและถามว่าทำไมออกมาเป็นฝ่ายค้าน 100% ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร รั้งให้อยู่กับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ก็มีบ้าง แต่ไม่ได้ตัดพ้ออะไรตนเรียนข้อเท็จจริงด้วยเหตุผล แต่เมื่อเรามีเหตุผลท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือ เคารพการตัดสินใจของตน หลังจากที่ตนกลับเข้ากทม.ในวันที่ 15 ก.ค.นี้แล้ว ตนจะประสานเพื่อเข้าพบพล.อ.ประวิตรอย่างเป็นทางการอีกครั้ง  เมื่อถามย้ำว่า การโหวตซักฟอก พล.อ.ประวิตรขอให้โหวตใครบ้าง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ได้ขอ แม้แต่ตัว พล.อ.ประวิตรก็ไม่ได้ขอ

ต่อข้อถามว่า ตัวของพล.อ.ประวิตร พรรคเศรษฐกิจไทยคงไม่แตะ แต่กับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มีการขอไว้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ได้พูดถึงการโหวตการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พูดถึงเหตุผลการออกมาเป็นฝ่ายค้าน เมื่อถามว่า ตัวของ ร.อ.ธรรมนัสและพรรคเศรษฐกิจไทยมีโอกาสจะไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างเป็นไปได้หมด