กทม.ขยายเวลาจัดเก็บค่าขยะอัตราใหม่ถึง ต.ค. 66 เล็งปรับปรุงข้อบัญญัติให้รอบคอบ
เมื่อวันที่ 11 ก.ค.65 ที่อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะผู้บริหาร กทม.วันนี้เห็นการขยายเวลาการบังคับใช้ข้อบัญญัติ กทม. เรื่อง ค่าธรรมเนียมการให้บริการในการจัดการสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ. 2562 ออกไปก่อน เป็น 1 ต.ค.66 ตามที่สำนักสิ่งแวดล้อมเสนอให้พิจารณา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ทั้งนี้ ปัจจุบันกรุงเทพมหานครใช้ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ค่าธรรมเนียมการเก็บและขนสิ่งปฏิกูลหรือมูลฝอยตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข พ.ศ. 2546 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2548 จึงจะมีการปรับปรุงข้อบัญญัติใหม่ให้สอดคล้องกับนโยบายของผู้บริหาร และเชิญทุกภาคส่วน ทั้งนักวิชาการและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร มาร่วมแสดงความคิดเป็นเพื่อให้มีความรอบคอบและสะท้อนปัญหาได้ครบทุกด้าน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการคำนวณค่าจัดเก็บขยะ คือ ต้องลดค่าใช้จ่ายก่อน การขึ้นค่าธรรมเนียมจะเป็นภาระกับประชาชน และเป็นสิ่งที่รัฐต้องให้บริการพื้นฐานกับประชาชนอยู่แล้ว สำหรับการเก็บอัตราใหม่จะทำให้กทม.มีรายได้เพิ่มขึ้น 2,000 ล้านบาท แต่จะพยายามไม่ให้ประชาชนต้องจ่ายมากขึ้น ซึ่งภาคประชาชนอาจจะมีข้อจำกัดมากกว่าภาคเอกชน เอกชนสามารถรีไซเคิลและบริหารจัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขยะส่วนใหญ่ทุกวันนี้กว่า 60 % มาจากครัวเรือน หลายส่วนเห็นว่าอัตราค่าขยะใหม่จะทำให้กทม.เก็บค่าขยะจากเอกชนได้มากขึ้น แต่ในมุมกลับกันอาจเป็นการสร้างภาระให้กับประชาชนมากขึ้นด้วย ต้องคิดให้รอบคอบ และอัตราค่าธรรมเนียมขยะปัจจุบันคิดที่น้ำหนักขยะเป็นหลัก ไม่ได้คิดถึงเรื่องแรงจูงใจในการบริหารจัดการหรือการคัดแยกขยะ