กองทัพเมียนมา เปิดปากยอมรับครั้งแรกว่า มีทหารบางนายเกี่ยวข้องกับการเข่นฆ่าชาวโรฮีนจา ในรัฐยะไข่
กองทัพเมียนมา ยอมรับเป็นครั้งแรกว่า ทหารของตนมีส่วนเกี่ยวข้องในการเข่นฆ่าชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮีนจา ในเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่เมื่อไม่นานมานี้ โดยคณะกรรมการสอบสวนพบว่า มีทหาร 4 นายเกี่ยวข้องกับการสังหารชาวโรฮีนจา 10 คน และฝังในหลุมศพเดียวกัน ในหมู่บ้าน อินน์ ดิน ใกล้เมืองมองดอ (Maungdaw) รายงานข่าวบอกว่า ทหารทั้ง 4 นาย ได้ช่วยชาวบ้านโจมตีแก้แค้นต่อกลุ่มคนที่พวกเขาเรียกว่า “กลุ่มก่อการร้ายเบงกาลี”
ชาวโรฮีนจากว่า 650,000 คน หลบหนีเข้าไปในบังกลาเทศ ตั้งแต่ความรุนแรงปะทุขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว ซึ่งเกิดเรื่องราวที่น่าตื่นตระหนกมากมาย ทั้งฆ่าหมู่, ข่มขืนและทรมาน ชาวโรฮีนจากล่าวหาทหารเมียนมา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากชาวพุทธในท้องถิ่นว่า เผาหมู่บ้านและโจมตีและเข่นฆ่าพลเรือน และถูกกล่าวหาว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ส่วนกองทัพเมียนมา ออกมาปฏิเสธโจมตีเป้าหมายพลเรือน และยืนยันว่า กำลังต่อสู้กับกลุ่มหัวรุนแรงโรฮีนจาเท่านั้น
กองทัพเมียนมาประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่า จะทำการสอบสวนกรณีที่พบโครงกระดูกมนุษย์ 10 ศพ ในหลุมศพขนาดใหญ่ใกล้หมู่บ้านอินน์ ดิน ซึ่งจากผลการสอบสวน ที่เผยแพร่ทางเฟซบุ๊คของผู้บัญชาการกองทัพ ระบุว่า การฆ่าหมู่ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กันยายน ปีที่แล้ว เมียนมาไม่อนุญาตให้นักข่าวและคณะสอบสวนภายนอกเข้าไปในรัฐยะไข่เพื่อตรวจสอบข้อกล่าวหาการใช้ความรุนแรงต่าง ๆ ดังกล่าว
“มันเป็นความจริงที่ทั้งชาวบ้านและกองกำลังรักษาความมั่นคง ยอมรับว่า พวกเขาได้สังหารกลุ่มก่อการร้ายเบงกาลี 10 ราย” กองทัพแถลง ซึ่งเบงกาลี เป็นคำที่เมียนมาใช้เรียกกลุ่มหัวรุนแรงโรฮีนจา “กองทัพจะตั้งข้อหาคนที่เกี่ยวข้องกับการเข่นฆ่าครั้งนี้ และคนที่ละเมิดกฎหมาย เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้น เพราะชนกลุ่มน้อยชาวพุทธถูกข่มขู่ และยั่วยุจากกลุ่มก่อการร้าย”