"นิกร"พร้อมลงชื่อส่งศาล รธน.ตีความสูตรคำนวณ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์หาร 500
เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 65 นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ.... รัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่มติของรัฐสภาเสียงข้างมากให้แก้ไขเนื้อหามาตรา 23 ซึ่งแก้ไขมาตรา 128 ว่าด้วยวิธีคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ จากเดิมที่กมธ.กำหนดให้ใช้จำนวน 100 คนหาค่าเฉลี่ย ไปเป็นใช้จำนวน 500 คน พร้อมกับแก้ไขวิธีคำนวณ ว่า มาตราและรายละเอียดดังกล่าวมีผลที่เกี่ยวโยงกับมาตราอื่นในร่างพ.ร.ป. ดังนั้นอาจะทำให้มีปัญหาได้หากไม่แก้ไขให้สอดคล้องกัน ดังนั้นตนขอให้ กมธ.เสียงข้างน้อย ที่เป็นผู้ชนะในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงรับผิดชอบที่จะดูแลแก้ไขปัญหาดังกล่าว ได้ตรวจดูรายละเอียดมาตราที่รัฐสภาลงมติผ่านไปแล้วและมาตราที่รอการพิจารณาด้วย
นายนิกร กล่าวต่อว่า กรณีที่จะมีผู้เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยเนื้อหาว่าขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 กำหนด แต่ต้องเป็นช่วงที่ร่างพ.ร.ป.ได้รับความเห็นชอบและส่งไปยังนายกรัฐมนตรีแล้ว ขณะที่บางฝ่ายระบุว่าศาลรัฐธรรมนูญสามารถพิจารณาได้หลังจากที่รัฐสภาเห็นชอบในวาระสาม โดยอ้างอิงรัฐธรรมนูญ มาตร 132 (2) นั้น จากการสอบถามกับทางสำนักงานกฤษฎีกา ทราบว่าต้องส่งไปให้เฉพาะกกต.พิจารณา และเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ตนได้สอบถามไปยังนายอุดม รัฐอมฤต อดีตกรธ. ถึงเจตนารมณ์ว่า การส่งร่างพ.ร.ป.ใดไปให้องค์กรที่เกี่ยวข้องพิจารณาความชอบของบทบัญญัติ นั้นต้องเป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการใช้กฎหมายฉบับนั้น ดังนั้นในชั้นนี้จะมีเพียงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) องค์กรเดียวที่จะพิจารณาได้ อย่างไรก็ดีเพื่อความชัดเจนจะสอบถามไปยังฝ่ายกฎหมายของรัฐสภาเพื่อให้เกิดความชัดเจนอีกครั้ง ส่วนตัวเชื่อว่าการพิจารณามาตรา 23 ของกกต.นั้น จะยืนยันเนื้อหาที่ไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือ ยืนตามเนื้อหาของกมธ.เสียงข้างมาก เนื่องจากเนื้อหาดังกล่าว กกต. เป็นผู้ยกร่างเสนอให้กับคณะรัฐมนตรี ดังนั้นการใช้จำนวน 100 คนหาค่าเฉลี่ยจะถูกส่งคืนมายังรัฐสภาให้พิจารณา จากนั้นรัฐสภาต้องประชุมเพื่อแก้ไขหรือจะยืนยัน สำหรับการยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยมาตรา 23 นั้น ตนพร้อมจะร่วมลงชื่อคำร้องร่วมกับ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ด้วย