กมธ.แฉมีขบวนการบ่อนทำลาย เพื่อไม่ให้ประชาชนสามารถใช้กัญชาอย่างเข้าใจ
เมื่อวันที่ 4ก.ค.65 ที่รัฐสภา นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ. … สภาผู้แทนราษฎร แถลงชี้แจงกรณีดราม่าภาพถ่ายนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข นำเด็กๆมาร่วมถือตุ๊กตารูปใบกัญชาเพื่อประชาสัมพันธ์เรื่องกัญชาว่า ปัจจุบันมีขบวนการบ่อนทำลาย เพื่อไม่ให้ประชาชนสามารถใช้กัญชาอย่างเข้าใจ และมีกระบวนการไม่ให้ประชาชนพึ่งพาตัวเอง ตนขอย้ำว่าเป็นขบวนการ และในขณะนี้เราจำเป็นจะต้องรู้เท่าทันปรากฏการณ์นี้ เพราะภาพถ่ายดังกล่าวไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแต่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เพิ่งจะหยิบยกมาโจมตีทางการเมือง เราอยากวิงวอนว่าเรื่องของกัญชากัญชงเป็นประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนไม่ควรนำมาเป็นประเด็นทางการเมืองโดยทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ต่อให้มีเด็กถ่ายรูปกับใบกัญชาก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะปัจจุบันนี้ยากัญชาอยู่ในตำรับยาของชาติสามารถใช้กับเด็กได้ และตำรับยาแผนไทยของชาติ ได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา ซึ่งหมายความว่ามีคุณค่าในทางสาธารณสุขเป็นพิเศษ และเป็นการใช้ต้านโรค และใช้มาหลายร้อยปี มีมาตั้งแต่ในอดีต ดังนั้นต่อให้เด็กถ่ายรูปกับใบกัญชาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะอยู่ในฐานะสมุนไพรรักษาโรคในเด็กได้ด้วย
โฆษก กมธ.กัญชา กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันน้ำมันกัญชาและน้ำมันกัญชงในต่างประเทศ ถูกจดขึ้นเป็นสิทธิบัตรยาแล้ว ฉะนั้นเด็กไม่ควรกลัวกัญชาไปเสียหมด และผู้ใหญ่ก็ไม่ควรส่งเสริมความเข้าใจผิดว่ากัญชามีแต่โทษ และไม่มีประโยชน์ ในทางตรงกันข้ามเด็กควรยินดี และมีความรู้ว่ากัญชาสามารถรักษาโรคลมชัก ลมบ้าหมู และโรคออทิสติกในเด็กได้ การที่เรามีภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย เราจึงไม่จำเป็นต้องซื้อยาที่มีสิทธิบัตรจากต่างชาติแต่เพียงอย่างเดียว อย่างไรก็ตามกัญชากับเด็กจึงไม่ใช่สิ่งที่ต้องส่งเสริมให้เด็กกลัว แต่ควรจะส่งเสริมให้เด็กมีความรู้อย่างถูกต้องทั้งประโยชน์และโทษ สังคมจึงจะเกิดการเรียนรู้ในการใช้กัญชาอย่างถูกต้อง