วอนผู้ใจบุญช่วย พ่อเฒ่า-แม่เฒ่า ชีวิตตกอับเพราะลูกนำโฉนดที่นา ที่บ้านไปจำนองขายฝาก ก่อนสลัดภาระทิ้ง หนีไปไม่ไยดี ปล่อยให้พ่อแม่ต้องรับชะตากรรม
เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวนายบุญ เหิมขุนทด ชายเฒ่าอายุ 82 ปี ที่ป่วยพิการเดินไม่ได้ อาศัยไม้หลังเล็กๆ เก่าๆ ที่ตั้งอยู่บริเวณหลังวัดบ้านหาญ ต.ด่านขุนทด อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา มีภรรยาคู่ชีวิตชื่อนางแมว เหิมขุนทด อายุ 76 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้นายบุญก็มีร่างกายสุขภาพแข็งแรงไม่ได้พิการอย่างเช่นทุกวันนี้ กระทั่งเมื่ออายุ 60 ปี ก็เริ่มแขนขาอ่อนแรง ยืนและเดินไม่ได้ และเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาได้ประสบความเครียด เมื่อทราบข่าวว่ามีคนจะมายึดที่บ้าน สืบเนื่องจากลูกสาวคนที่ 4 ในบรรดาลูก 6 คน กับลูกเขยขอร้องอ้อนวอนขอยืมโฉนดที่ดินเนื้อที่ประมาณ 1 งาน 40 ตรว. ซึ่งเป็นที่บ้านของพ่อแม่อาศัยอยู่ไปจำนองขายฝากจำนวน 350,000 บาท กับนายทุน เมื่อได้เงินใช้ตามความประสงค์แล้วก็ไม่ได้ไปติดต่อขอผ่อนชำระ พร้อมแยกย้ายตัวเองออกไปอาศัยอยู่ที่อื่น เวลาผ่านไปเนิ่นนานหลายปีจนกระทั่งสัญญาจำนองขายฝากหลุดไป ทำให้เจ้าของเงินที่ให้กู้ยืมต้องใช้สิทธิที่มีขอเป็นกรรมสิทธิ์พื้นที่ผืนนี้ พ่อเฒ่า-แม่เฒ่ามารู้ในวันสุดท้ายที่เขาจะยึดถึงกับร้องไห้เสียใจในการกระทำของลูกตัวเอง
พร้อมกันนี้ก็เกิดปัญหาตามมาอีกเมื่อลูกชายคนที่ 2 กับลูกสะใภ้ก็ได้อ้อนวอนขอยืมโฉนดที่นาจำนวน 8 ไร่ 3 งาน ไปจำนองขายฝากและก็ไม่ได้ผ่อนชำระจนนายทุนให้ชดใช้จำนวนเงิน 700,000 บาท แต่ก็ไม่มีเงิน จำต้องถูกยึดเช่นกัน ปัญหาทั้งสองอย่างรุมประดังเข้ามาพร้อมๆกัน ทำให้ต้องประสบความยากลำบากมาก และพ่อเฒ่า-แม่เฒ่ายังต้องเลี้ยงดูหลานชายของลูกสาวคนที่ 6 ที่เรียนอยู่ชั้น ป.6 อีกคนหนึ่งด้วย
กระทั่งวันที่ 5 ม.ค.61 ที่ผ่านมา พ่อเฒ่า-แม่เฒ่า ยังต้องมารับภาระเลี้ยงดูลูกชายคนที่ 5 ที่ ประสบอุบัติเหตุทางรถโดยไม่ทราบสาเหตุอาการโคม่า และได้รับการรักษาจากแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยมีการผ่าตัดสมองจนทำให้มีชีวิตรอดฟื้นขึ้นมาได้ แต่ยังส่งผลกระทบให้พิการครึ่งซีกต้องนอนให้อาหารทางสายยางอยู่บนเตียง
โดยนายบุญพ่อเฒ่ากับนางแมวแม่เฒ่า ได้เผยว่า ปัจจุบันนี้มีความเป็นอยู่ทุกข์ยากมาก ดีที่นายทุนผู้ที่รับจำนองขายฝากที่ดินบ้านหลังนี้ ได้ตกลงทำสัญญาใจกับ น.ส.จงอร ภัทรบันลือภพ หรือ (เจ๊เนี้ยว) อายุ 71 ปี ผู้ที่ได้มาขอซื้อที่ดินบ้านของนายบุญและนางแมวนั้นในราคา 700,000 บาท เพราะเกิดความสงสารพ่อเฒ่ากับแม่เฒ่า รู้สึกสงสารเห็นใจ จึงได้แบ่งแยกโฉนดที่ดินให้จำนวนประมาณ 10 ตรว. พร้อมทั้งก่อสร้างยกบ้านให้พ่อเฒ่าและแม่เฒ่าได้พักพิงได้ใช้ชีวิตอยู่จนวันตาย แต่ทว่าตอนนี้ยังไม่มีเงินประมาณ 1 หมื่นกว่าบาท ที่จะไปเสียค่าธรรมเนียมทำเรื่องโอนมาเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองเท่านั้น
ด้าน น.ส.จงอร ภัทรบันลือภพ หรือ(เจ๊นี้ยว) อายุ 71 ปี ได้เปิดเผยว่าที่นายบุญและนางแมว ประสบปัญหาเช่นนี้ก็เพราะลูกแท้ๆ ตนเองก็รู้สึกเห็นใจนะโดยก่อนหน้านี้ ตนก็ได้เสนอซื้อที่ดินจำนวน 50 ตรว.และจะก่อสร้างบ้านให้อีก 1 หลังในพื้นที่บริเวณอื่น แต่ทางด้านนายบุญและนางแมวไม่ต้องการ ขออยู่ในพื้นที่บ้านที่เป็นมรดกตกทอดของบรรพบุรุษให้มา ถึงแม้จะเหลือที่อยู่เพียงแค่ 10 ตรว. ซึ่งเจ๊เนี้ยวยังบอกอีกว่า ตนได้ทำเรื่องแบ่งแยกโฉนดพื้นที่จำนวน 10 ตรว.ที่จะมอบให้แก่นายบุญและนางแมวแล้ว แต่ตนอยากให้ลูกๆทั้งหลายได้รวมเงินกันมาเสียค่าธรรมเนียมในการโอนที่สำนักงานที่ดินเอาเอง เพื่อแสดงความรับผิดชอบบ้าง โดยต้องให้สัจจะ มีข้อแม้ว่าที่ดินของนายบุญและนางแมว จำนวน 10 ตรว.นี้จะไม่มีการจำนองขายฝากหรือโอนไปให้แก่ผู้อื่นอีกจนกว่านายบุญกับนางแมวจะถึงแก่กรรม
ทางด้านนางนิธิรัชต์ เพ็ชรสุข พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ตำแหน่งหัวหน้าศูนย์สุขภาพชุมชน ต.ด่านขุนทด เผยว่า ตนเองก็รู้สึกสงสารเห็นใจครอบครัวของพ่อเฒ่าและแม่เฒ่านี้มาก ซึ่งตอนนี้อาศัยรับเงินเบี้ยยังชีพจากเทศบาล ต.ด่านขุนทด ซึ่งนายบุญจะได้จำนวน 1,400 บาท และนางบุญจะได้ 700 บาท ทุกเดือน ก็ยังพอเลี้ยงชีวิตกันได้ แต่ต้องรับภาระดูแลลูกชายที่ประสบอุบัติเหตุพิการนอนติดเตียงต้องให้อาหารทางสายยาง มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกมากมาย จึงอยากขอความอนุเคราะห์ผู้มีจิตศรัทธาอยากช่วยเหลือพ่อเฒ่าแม่เฒ่าหลานชายและลูกชายที่พิการนอนติดเตียง 4 ชีวิตนี้ ได้มีเงินโอนโฉนดที่บ้านเป็นของตัวเองจำนวน 1 หมื่นกว่าบาท และมีเงินได้ใช้จ่ายค่าอาหารเหลวหรือแพมเพิร์สบ้างก็จะได้บุญกุศลไม่น้อย โดยสามารถติดต่อได้ที่ นางนิธิรัชต์ (หมอหมู) หัวหน้าศูนย์สุขภาพชุมชน ต.ด่านขุนทด โทร.08-1999-3585