อบจ.สุรินทร์ ทุ่มงบกว่า 455 ล้าน เนรมิตโครงการโลกของช้าง (Elephant World) ยิ่งใหญ่ที่สุดมีช้างมากที่สุดในโลก เตรียมจดบันทึกกินเนสเวิลด์เร็คคอร์ด คาดแล้วเสร็จ 70 % กลางเดือน มี.ค.61 นักท่องเที่ยวเข้าสัมผัสได้ และเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 61 นี้
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.สุรินทร์ มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอยู่หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านช้างเลี้ยงใหญ่ที่สุดในโลก บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม และหมู่บ้านทอผ้าไหมท่าสว่าง ต.ท่าสว่าง,หมู่บ้านทำเครื่องเงินเขวาสินรินทร์ อ.เขวาสินรินทร์ ,กลุ่มปราสาทตาเมือน ปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก,ปราสาทศรีขรภูมิ อ.ศรีขรภูมิ แต่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก เนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งขณะนี้สร้างเสร็จไปแล้วประมาณ 40-50 % และจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกในอนาคตอันใกล้ คือโครงการโลกของช้าง (Elephant World) หรืออาณาจักรช้าง ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและมีช้างมากที่สุดในโลก
โครงการโลกของช้าง (Elephant World) อยู่ในความดูแลของ อบจ.สุรินทร์ โดยภายในโครงการตั้งอยู่บนเนื้อที่ 500 ไร่ จากพื้นที่ทั้งหมดกว่า 2,700 ไร่ ประกอบไปด้วย สระช้างเล่นน้ำ,ลานแสดงช้าง,โรงเรียนฝึกช้าง,ลานแสดงวัฒนธรรม,โรงช้างสำคัญ,พิพิธภัณฑ์,หอชมวิว,รูปปั้นพระพิฆเนศวร์ ซึ่งเป็นวงเวียนช้าง,คลินิกช้าง,หมู่บ้านชาวกวย,โรงหนังสามมิติ,ร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึก-ร้านอาหาร,ศาลปะกำ,จุดถ่ายภาพพลายทองคำและทองแท่ง ช้างฝาแฝดเพศผู้คู่แรกของโลก,ซุ้มประตูทางเข้า และลานจอดรถ
ทั้งนี้โครงการโลกของช้าง ยังอยู่ติดกับศูนย์คชศึกษา จ.สุรินทร์ ที่บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเดิมที่ อบจ.สุรินทร์ดูแลในโครงการ "นำช้างคืนถิ่นเพื่อพัฒนาสุรินทร์บ้านเกิด" อยู่แล้ว รวมทั้งยังอยู่ติดกับพื้นที่ของโครงการคชอาณาจักร จ.สุรินทร์ ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสุสานช้าง ที่มีการรวบรวมกระดูกช้างไว้ในสุสานมากที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของสำนักสงฆ์ป่าอาเจียงอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดจะสามารถช่วยกันเสริมสร้างศักยภาพและความหลากหลาย ด้านการท่องเที่ยวให้กับโครงการโลกของช้าง ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ได้เป็นอย่างดี และคาดว่าโครงการยักษ์ใหญ่ของ อบจ.สุรินทร์ ที่คาดหวังว่าจะเป็นศูนย์อนุรักษ์ช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก เป็นอาณาจักรช้าง ที่มีช้างอยู่รวมกันมากที่สุดในโลก ด้วยการบันทึกไว้กับ บริษัท กินเนสเวิลด์เร็คคอร์ด จะเสร็จสมบูรณ์และเป็นความจริงภายในปีนี้อย่างแน่นอน
สำหรับโครงการโลกของช้าง แหล่งท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ของโลก ใช้งบประมาณในการดำเนินงานทั้งสิ้น 455 ล้านบาทถ้วน โดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
นายกิตติเมศว์ รุ่งธนิเกียรติ นายก อบจ.สุรินทร์ เปิดเผยว่า โครงการโลกของช้าง ถือว่าเป็นความโชคดีของ จ.สุรินทร์ ที่ทางรัฐบาลได้ใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้งบประมาณมาทั้งหมด 160 ล้านบาท ในส่วน อบจ.สุรินทร์ ได้ดำเนินการอีกเกือบร้อยล้านบาท ซึ่งโครงการโลกของช้าง แยกเป็น 8 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนที่ 1. ซุ้มประตูทางเข้า 2. พิพิธภัณฑ์ 3. โรงช้างสำคัญพระมหากษัตริย์ 4. สนามแสดงช้าง 5. หอชมช้าง 6. หนองน้ำช้างเล่นน้ำ 7. หมู่บ้านชาวกูย และส่วนที่ 8 คือ โรงภาพยนตร์ นอกจากนี้ยังมีท่องไพร ซึ่งแบ่งออก 2 ส่วน คือ ท่องไพรปกติ และท่องไพรเอ็ดเวนเจอร์ ปัจจุบันที่เราดำเนินการ ในพื้นที่ที่ใช้ในโครงการ ทั้งหมดคือ 2,700 ไร่ ในส่วนโครงการ 8-9 จุด ที่กล่าวมา อยู่ในพื้นที่ 500 ไร่ ส่วนความคืบหน้าเสร็จไปประมาณ 30-40 % ซึ่งกิจกรรมที่กล่าวมา สามารถเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ในช่วงวันที่ 14 ก.พ.2561 วันวาเลนไทน์ ซึ่งจะเป็นวันงานจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างจะมีพิธีซัตเตของชาวกูยต่างๆ ส่วนวันที่ 13 มี.ค. จะเป็นวันช้างไทย และ 14 มี.ค.เป็นวันมวยไทย ช่วงนั้นจะสามารถเปิดโครงการให้ชมได้ประมาณ 70 % หมายความว่า เมื่อเข้าไป โรงช้างสำคัญก็จะเสร็จ สนามแสดงช้างก็เสร็จ ซึ่งสนามแสดงช้างใช้งบประมาณ 80 กว่าล้านบาท ซึ่งเป็นลานกิจกรรม ลานวัฒนธรรมแบบใหม่ ออกแบบโดยสถาปัตยกรรม จาก ม.จุฬาฯ
ในส่วนของหอดูช้างก็คาดว่าจะเสร็จในเดือนมีนาคม 2561 เช่นเดียวกัน ซึ่งจะต้องขึ้นลิฟท์ไปดู ช้างเล่นน้ำในหนองน้ำที่ทาง อบจ.ก่อสร้าง จะมีช้างเล่นน้ำ ประมาณ 80 เชือก และชมหมู่บ้านชาวกูย ซึ่งจะมีวิถีชีวิตของคนกับช้าง มีโรงฝึกช้างน้อย การท่องไพรก็จะมี เหมือนการนั่งเรือชมสัตว์ต่างๆ แต่ที่นี่นั่งช้างชมวิถีคนกับช้าง และส่วนที่เหลือหลังจากวันที่ 14 มี.ค.2561 ไปแล้ว นั่นคือ ตัวพิพิธภัณฑ์ ใช้งบประมาณ 60 กว่าล้าน และส่วนเนื้อหาตกแต่งภายในอีก 40 กว่าล้าน ดังนั้นโครงการดังกล่าว ท่านจะเห็นวิถีคนกับช้างซึ่งแตกต่างจากที่อื่น แล้วท่านจะเห็นว่าความเป็นชาวกูยที่เลี้ยงช้างเหมือนสัตว์เลี้ยงในบ้าน ดังนั้นช้างเลี้ยง ช้างบ้านจึงเรียกเป็นเชือก ช้างป่าจึงเรียกเป็นตัว จะเห็นวิธีการฝึกช้างต่างๆ ท่านจะเห็นช้าง 200 กว่าเชือก นั่นคือ ศูนย์อนุรักษ์ช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
"เรานำสัตว์อัจฉริยะ มาทำให้มีศักยภาพเทียบเท่ากับคน หรือเหนือกว่าคน เหมือนในอดีตที่มีสงคราม ที่ช้างมีคุณูปการต่อแผ่นดิน ช้างออกรบได้ กรำศึกได้ ชนะคนได้ จึงขอเรียนเชิญนักท่องเที่ยวทุกท่าน เข้ามาเที่ยวอาณาจักรช้างที่ จ.สุรินทร์ ซึ่งโครงการในช่วงเริ่มต้น เราจะค่อยๆปรับปรุงเพิ่มเติม และในอนาคตเราจะรับกรุ๊ปนักท่องเที่ยว ประเภทที่มาพักโฮมสเตย์แล้วอยู่เป็นเดือน เพื่อคลุกคลีกับวิถีคนกับช้าง ได้เลี้ยงช้าง ให้อาหารช้าง อาบน้ำให้ช้าง กิจกรรมแบบนี้ นักท่องเที่ยวชาวยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น มักจะชอบมาเที่ยวและสัมผัสโดยใช้เวลาหลายวัน ในขณะเดียวกัน อบจ.สุรินทร์ ก็จะจัดคอร์สพิเศษ และมีหนังสือรับรองในการผ่านการฝึกอบรมต่อไป
ตอนนี้มีช้างในความดูแลของ โครงการคชอาณาจักร จ.สุรินทร์ ขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ 200 กว่าเชือก และของ อบจ.ดูแลอีก 100 กว่าเชือก รวมแล้ว 300 กว่าเชือก ระหว่าง 2 พื้นที่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกันและติดกัน เมื่อโครงการนี้เสร็จสิ้น สิ่งที่จะเห็นได้ชัดเจน คือ ชาวกูยในพื้นที่สามารถจำหน่ายสินค้าต่างๆให้กับนักท่องเที่ยว มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ซึ่งคือเป้าหมายของเรา และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพราะต้องการให้เป็น "นิว โปรดัคส์" ขณะเดียวกัน อบจ.สุรินทร์ กำลังประสานงานกับกินเนสเวิลด์ เร็คคอร์ด เพื่อได้รับการบันทึกเป็นศูนย์อนุรักษ์ช้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก เพราะเชื่อมั่นว่า ไม่มีศูนย์ดูแลช้างที่ไหนมีช้างมากเท่า จ.สุรินทร์ อีกแล้ว" นายก อบจ.สุรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย