"ชัชชาติ"ชมนายกฯเป็นผู้ใหญ่มีเมตตา พร้อมลงพื้นที่ร่วมกันจะได้เห็นปัญหาเข้าใจประชาชนมากขึ้น
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.65 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่านกทม. ให้สัมภาษณ์หลังการพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า พล.อ.ประยุทธ์ พาชมตึกภักดีบดินทร์ที่สร้างใหม่ อีกทั้งได้แสดงความยินดี ที่ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่า ฯ กทม. โดย นายกฯ ขอให้ร่วมมือทำงานและประสานงานร่วมกัน ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ทั้งนี้ตนเคยเจอนายกฯ เมื่อนานมาแล้ว ซึ่งเห็นว่าท่านเป็นผู้ใหญ่ที่มีความเมตตา ขณะที่ กทม.ต้องร่วมงานกับรัฐบาลอยู่แล้ว เพราะ กทม.อยู่ในการกำกับของกระทรวงมหาดไทย
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ ฝากเรื่องงานอะไรใน กทม.เป็นพิเศษ หรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ให้ช่วยกันทำงาน คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะ กทม.อยู่ภายใต้ ศบค. เมื่อถามว่าได้เคลียร์ใจกับ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อครั้งเกิดเหตุการณ์ที่นายชัชชาติถูกเชิญตัวสมัย คสช.เมื่อ 8 ปีที่แล้วหรือไม่ นายชัชชาติหัวเราะพร้อมกล่าวว่า ไม่มีๆ ผมไม่ได้คิด ตอนนี้ผมถือว่าต้องมองไปอนาคต ทำงานร่วมกัน หน้าที่เราทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชนให้ดีที่สุด ถ้าร่วมมือกันทำงานด้วยดี สุดท้ายประโยชน์ตกอยู่ที่ประชาชน ต่อข้อถามว่า นายกฯ และผู้ว่าฯ กทม.จะมีโอกาสได้ลงพื้นที่ร่วมกันหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า แน่นอน และที่พูดคุยกับนายกฯ ได้แจ้งสาเหตุที่ไม่ได้ไปร่วมงานที่ท่าเรือสาทร เพราะไม่ได้รับแจ้งจริงๆ และในอนาคตหากต้องการให้ไปร่วมงาน ตนพร้อมไปพบและต้อนรับนายกฯ เพื่อพูดคุย และถือโอกาสนำปัญหาต่างๆ ไปแจ้งให้ทราบ และเป็นเรื่องดีที่จะได้ลงพื้นที่ร่วมกัน จะได้เห็นปัญหาและเข้าใจประชาชนมากขึ้น
นายชัชชาติ ชี้แจงความคืบหน้าการแก้ปัญหา สัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ว่า ปลัด กทม.และกระทรวงคมนาคม อยู่ระหวางหารือแก้ปัญหาในรูปแบบคณะทำงาน และต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมสภากรุงเทพมหานคร เพื่อพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา เนื่องจากเป็นเรื่องใหญ่ มีตัวเลขการเงินที่ต้องวิเคราะห์จำนวนมาก ทั้งนี้ เบื้องต้นให้เวลาภายใน 1 เดือนต้องมีความคืบหน้าเพื่อนำมารายงานให้ประชาชนทราบซึ่งตามขั้นตอน กทม.มีหน้าที่เสนอความคิดเห็นและต้องหารือกับกระทรวงมหาดไทย ก่อนเสนอ ครม. คิดว่าทุกคนช่วยกันแก้ปัญหา ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้งและทุกอย่างต้องอธิบายได้ เมื่อถามว่านอกจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวแล้ว กทม.ยังมีปัญหาเรื่องอื่นๆ อาทิ เรื่องรถดับเพลิงที่ยังถูกจอดทิ้งไว้โดยไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ นายชัชชาติ กล่าวว่า เรื่องพวกนี้ต้องค่อยๆ สะสางไป ส่วนเรื่องที่อยู่ระหว่างการฟ้องร้อง ในกระบวนการของศาล กทม.ทำอะไรไม่ได้ ต้องรอศาลมีคำสั่ง ตอนนี้มีเรื่องค้างคาหลายเรื่อง เช่น ท่อร้อยสาย โรงกำจัดขยะ ที่มีคณะทำงานดำเนินการอยู่