สปสช. พิจารณาจ่ายเงินเยียวยา 4 แสนบาท แก่ครอบครัวนักเรียน ม.6 ใน อ.ลำปลายมาศ ซึ่งเสียชีวิตหลังจากฉีดวัคซีนโควิด 19 ย้ำหากเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนให้เร่งยื่นคำร้องขอรับเงินเยียวยาและ สปสช. จะพิจารณาให้โดยเร็ว
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.65 นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา 6 ใน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตจากอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 เข็ม 1 เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา สปสช.ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยได้มอบหมายให้ทีมงานของ สปสช. เขต 9 นครราชสีมา ลงพื้นที่ร่วมกับผู้แทนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ หน่วยบริการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนหน่วยรับเรื่องร้องเรียนอื่นที่เป็นอิสระจากผู้ถูกร้องเรียนตามมาตรา 50(5) อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจและดำเนินการให้คำแนะนำแก่ญาติในการยื่นคำร้องขอรับการช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนโควิด-19 แล้ว นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการรับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 ได้ประชุมด่วนเพื่อพิจารณาคำร้องในทันที และมีมติให้จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นกรณีดังกล่าวเป็นจำนวน 400,000 บาท
"ผู้เสียชีวิตเป็นคนขยัน ชอบอ่านหนังสือ อยากเป็นหมอ แต่หลังจากได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกประมาณ 3 สัปดาห์ก็เริ่มมีอาการผิดปกติ แน่นหน้าอก เจ็บท้อง และอาเจียน จากนั้นได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ และต่อมาถูกส่งต่อไปที่โรงพยาบาลจังหวัดจนกระทั่งเสียชีวิต ทางครอบครัวค่อนข้างกังวล ไม่มีเงินจัดงานศพ ต้องไปกู้เงินมาจัดงานให้น้อง และไม่ทราบว่าจะเข้าเกณฑ์ขอรับเงินเยียวยาเบื้องต้นได้หรือไม่ ซึ่งทางทีมงานที่ไปเยี่ยมให้กำลังใจก็ได้ให้คำแนะนำได้ให้คำแนะนำในการยื่นคำร้อง การจัดเตรียมข้อมูลเพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณา และทางคณะอนุกรรมการฯ ก็เร่งพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเบื้องต้นให้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าเงินจำนวนนี้จะเทียบไม่ได้กับความสูญเสียของครอบครัว แต่ก็หวังว่าจะช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น และเป็นการแสดงความตั้งใจว่ารัฐบาลและ สปสช.จะดูแลประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยไม่ทิ้งใครหรือครอบครัวใดไว้ข้างหลัง" นพ.จเด็จ กล่าว
นพ.จเด็จ กล่าวอีกว่า หากประชาชนท่านใดเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการได้รับวัคซีนโควิด-19 ไม่ว่าจะเจ็บป่วย บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ขออย่าเพิ่งคิดเองว่าจะเข้าเกณฑ์หรือไม่เข้าเกณฑ์ เพราะการพิจารณาเยียวยาของ สปสช.นั้น ยึดตามหลักการช่วยเหลือเบื้องต้นคือไม่พิสูจน์ถูกผิด (no-fault compensation) ว่าอาการไม่พึงประสงค์นั้นเกิดจากวัคซีนโควิด-19 หรือไม่ ซึ่งเป็นหลักการช่วยเหลือเดียวกันกับมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่เยียวยาความเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุขนั่นเอง ดังนั้นขอให้ยื่นคำร้องเข้ามาโดยเร็วเพื่อที่ สปสช.เขตพื้นที่จะได้ช่วยให้คำแนะนำและเสนอให้คณะอนุกรรมการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องฯ ของเขตนั้นเป็นผู้พิจารณา และหากไม่ทราบว่าจะยื่นคำร้องหรือสอบถามข้อมูลได้ที่ไหน สามารถสอบถามได้ทั้งจากหน่วยบริการในพื้นที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สปสช.เขตพื้นที่ หน่วยรับเรื่องร้องเรียนที่เป็นอิสระจากผู้ถูกร้องเรียน หน่วย 50(5) ในพื้นที่ หรือสายด่วน สปสช. 1330 ก็ได้ เมื่อรับคำร้องแล้ว สปสช.จะเร่งดำเนินการให้การเยียวยาโดยเร็วที่สุด