"อนุทิน"ชมสปิริต "ชัชชาติ" พร้อมแจงข่าวพบคน กทม.ตายเพราะกัญชา ขอ "จาตุรนต์" แยกแยะเรื่องกัญชามีดี มีเสีย อย่าเหมามองด้านเดียว
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.65 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวระบุว่า ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมา เพื่อดูแลในเรื่องนี้ มี รมว.สาธารณสุขเป็นประธาน ตนน้อมรับ และปฏิบัติตาม ขณะที่คณะกรรมาธิการในการร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ก็ได้รวบรวมความห่วงใย เพื่อนำไปปรับปรุงกฎหมาย อันที่จริง นโยบายนี้ เรามุ่งเน้นให้ใช้ในทางการแพทย์ แต่มันก็ห้ามคนบางกลุ่มไม่ได้ ซึ่งการใช้แบบผิดๆ ที่ว่า เกิดขึ้นก่อนวันที่ 9 มิถุนายนเสียอีก ก็หวังว่า คนที่ใช้ในทางที่ไม่ถูกต้องจะได้เห็นผลเสียกันไปบ้างแล้ว และอย่าคิดว่าไม่มีกฎหมายควบคุม เพราะถ้าดูดี ๆ เรามีกฎหมายสาธารณสุขอีกหลายตัวที่เข้าไปจัดการได้
เมื่อถามถึงรายงานของ กทม.เรื่องพบผู้เสียชีวิตจากการใช้กัญชาเกินขนาดวานนี้(14 มิ.ย.65) นายอนุทินตอบว่า ต้องขอขอบคุณท่านชัชชาติ ผู้ว่า กทม. หลังจากมีข้อมูลว่าการเสียชีวิต อาจไม่เกี่ยวกับการใช้กัญชาเกินขนาด ก็มีการประสานให้ตน และท่านชัชชาติได้พูดคุยกัน ท่านมีสปิริตสูง และท่านรับปากว่าจะรีบไปดูข้อเท็จจริง เรื่องสาเหตุการเสียชีวิต ทั้งจะรีบชี้แจงให้สังคมเกิดความเข้าใจ อันนี้ ต้องขอบคุณท่าน ที่ท่านพร้อมแก้ไข ไม่สร้างความวิตกให้กับสังคม ส่วนเรื่องการห้ามใช้กัญชาในโรงเรียน ให้ย้อนดูกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุข เรามีเรื่องนี้อยู่แล้ว ที่ไม่ให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ใช้กัญชาในที่สาธารณะ ที่หมายถึงโรงเรียนด้วย แล้วเรากำลังจะออกกฎหมาย ให้กัญชา เป็นสมุนไพรคุ้มครองชนิดควบควม เพื่อไม่ให้มีการใช้กัญชาในทางที่ผิดกฎหมายที่กล่าวมานั้น อยู่คู่กับกระทรวงสาธารณสุขมาเนิ่นนาน เมื่อมีความกังวลกับสังคม เราสามารถหยิบมาใช้ได้ทันที เรื่องการใช้กัญชา ให้ถูกต้อง เราประชาสัมพันธ์มาตลอด ขณะที่การขับเคลื่อนกัญชา เราเดินหน้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป ให้ประชาชนได้มีเวลาปรับตัว กระทั่งผ่านขั้นตอนสำคัญ คือ การปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติด ที่ร่วมพิจารณาโดย ปปส. จากนี้ ทางกระทรวงฯ จะต้องเร่งประชาสัมพันธ์เพื่อให้ความรู้กันมากขึ้น อันที่จริงการใช้กัญชามีมานานแล้ว แต่ทำไมปัญหาต่างๆ มันเพิ่งมาเกิดเอาในช่วงนี้
เมื่อถามความเห็นต่อข้อวิจารณ์จากนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ท่านเป็นนักการเมืองที่มาจากอีกยุคหนึ่ง ท่านมองเรื่องไม่ดีไปก่อน ไม่มองหาโอกาส ท่านไม่แยกแยะว่า ประโยชน์หรือโทษ เรื่องไหนมีมากกว่ากัน แล้วที่เป็นโทษมันควบคุมได้ไหม ผม และพรรคไม่อยากจะนำพากับสิ่งที่ท่านพูด เสียเวลา ในวงการเมืองเรารู้หมด ว่าใครเป็นคนอย่างไร บางคนย่ำอยู่กับที่ ไปไหนไม่รอด ก็ต้องกลับมาที่เดิม ของแบบนี้ ดีหรือไม่ ตอนเลือกตั้ง ให้ประชาชนตัดสินดีกว่า”