แม้จะก้าวเข้าสู่อายุ 44 ปี ไปแล้ว แต่ความหล่อความใสของพระเอกหนุ่มมากฝีมือ "เคน ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์" ก็ยังคงดูดีได้จนหลายคนต่างยกให้เป็นอีกหนึ่งพระเอกหล่ออมตะที่ยังครองใจแฟนๆละครได้ในทุกยุค ล่าสุดเจอเจ้าตัวในงานเปิดตัวแบรนด์ Devonte ผลิตภัณฑ์สกินแคร์สำหรับผู้ชาย เลยสอบถามถึงเรื่องละครซุปตาร์ 2550 ที่หนุ่มเคนเป็นผู้กำกับละครเรื่องแรก พร้อมถามถึงน้องคุนและน้องจุนที่ตอนนี้เข้าสู่วัยรุ่นอย่างเต็มตัว โดยเจ้าตัวได้เผยว่า
วันนี้มาเผยเคล็ดลับความหล่อ?
จริงๆคือต้องมีวินัยมากคือการออกกำลังกายและการพักผ่อน ผมจะให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายมาก ด้วยวัยและด้วยกิจกรรมที่ผมทำตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เพราะฉะนั้นถ้าผมไม่แข็งแรงจะทำกิจกรรมเหล่านั้นไม่ได้เลย วันนี้ผมอายุ 40 กว่า ผมมองว่าถ้าผมอายุ 50 หรือ 60 ผมก็ยังต้องเล่นสเก็ตได้อยู่ ผมเลยต้องออกกำลังกายไปเรื่อยๆ ผมเน้นที่ความสม่ำเสมอและเน้นทำไปตลอด สิ่งที่สองคือการพักผ่อน เราทำงานหนักและออกกำลังกายเยอะเพราะฉะนั้นต้องพักผ่อนให้เพียงพอ ปกติจะนอนเร็วอยู่แล้วถ้าไม่ได้ทำงาน อย่างเวลาสักสามทุ่มผมก็จะเดินไปที่เตียงแล้ว จะไม่มานั้งเล่นโทรศัพท์แล้ว ผมเป็นคนตื่นเช้า หกโมงก็จะตื่นแล้ว
เรื่องอาหารการกินมีส่วนด้วยมั้ย?
มีส่วนครับ ส่วนตัวเป็นคนชอบกินแต่ก็จะไม่ห้ามว่าตัวเองต้องไม่กินอะไร ผมจะกินเป็นมื้อๆอยู่แล้ว แต่ผมจะไม่กินหลังสองทุ่มเป็นกฎเหล็กเลย และผมก็จะไม่กินของหวานอยู่แล้ว คือกินได้ชิ้นสองชิ้น แต่ไม่ได้ติดของหวานก็โชคดีไปครับ
นอกจากการบำรุงด้วยครีมเป็นประจำแล้ว มีการทำอย่างอื่นด้วยมั้ย?
เดือนนึงก็ทำทรีตเม้นต์ประมาณสองครั้ง ไปนวดหน้า คือผมไม่ทนความเจ็บปวด(หัวเราะ) ทุกคนในคลินิคจะรู้ชื่อเสียงพี่เคนคือถ้าเจ็บนี่กรี๊ดเลย(หัวเราะ) อย่างช่วงเวลาที่ผมต้องทำงานก็จะไปทำ แต่ถ้าเป็นช่วงพักงานก็จะไม่ได้ไปครับ คนเรามันต้องแก่ขึ้นถูกป่ะ แต่ว่าเราแก่ยังไงให้ดูดีตามวัยมากกว่า
คุ้นชินมั้ยที่หลายคนบอกว่าเราหล่ออมตะ?
ก็ไม่ได้คุ้นชิน แต่ก็รู้สึกดี (ยิ้ม) อย่างที่บอกการออกกำลังกายและการพักผ่อนทำให้มันเป็นไลฟ์สไตล์มากกว่า คือไม่ใช่ว่าผมทำเพื่อจะเล่นละครเรื่องนี้ แต่พอละครจบแล้วผมไม่ทำ มันไม่มีประโยชน์เพราะเราทำแค่ช่วงนึง ผมจะไม่ทำอะไรที่หักโหม แต่ผมจะทำอะไรที่ผมทำได้จริงๆ ทำได้ทุกวัน และทำไปได้ตลอดชีวิต คือจะทำให้มันเป็นไลฟ์สไตล์ของเราครับ
ถามถึงเรื่องละคร?
ใกล้ปิดกล้องแล้วครับ ประมาณ80เปอร์เซ็นแล้วครับ
เรื่องนี้ดารารับเชิญเยอะมาก?
ต้องขอบคุณพี่ๆน้องๆนักแสดงทุกคนเลยครับ ที่ให้ใจผมกับคุณหน่อย มาช่วย ทำให้งานผมมันดูว้าวจริงๆ ผมรู้สึกว่าทุกคนรู้ว่านี่เป็นความตั้งใจของผม เป็นความฝันของผม ทุกคนก็อยากมาเติมเต็มความฝันของผมให้เป็นจริงครับ
หลายคนสงสัยเรื่องค่าตัวนักแสดงว่าต้องจ่ายยังไง เพราะนักแสดงเยอะมาก?
อันนี้ก็แล้วแต่ละคนเลยครับ ถ้าคนที่คิดค่าตัวเราก็จ่าย คนที่ไม่คิดค่าตัวอย่างชมพู่ อารยา เราก็จ่ายเป็นจับฉ่ายหนึ่งหม้อ(หัวเราะ) อันนี้ผมไม่ว่ากัน ในฐานะผู้กำกับผมเป็นครั้งแรกในชีวิต คือตอนนี้ทุกคนแบบว่าถ้าเป็นพี่หนูไป เค้าให้ใจมาแล้วครับ
ตั้งแต่ทำงานในวงการบันเทิงมา ค่าตัวชมพู่ อารยา คือแปลกสุดเลยมั้ย?
ก็เลยเซ็ตเป็นแสตนดาร์ดใหม่ขึ้นมา ทำให้น้องๆคนใหม่ที่เข้ามาเป็นคนนี้ขอก๋วยจั๊บ ต้องขอบคุณชมพู่มากครับ(ยิ้ม)
ตอนนี้น้องคุน น้องจุน โตเป็นหนุ่มแล้ว เรารับมือยากง่ายแค่ไหน?
ต้องบอกว่าง่ายมากครับ ยิ่งโตยิ่งสบายใจ ช่วงเด็กๆผมเหนื่อยมากจริงๆ เพราะเป็นช่วงที่ผมไม่อยากทำงานเลย ผมทำหน้าที่คุณพ่อแบบเต็มเวลาจริงๆครับ จนวันนี้ผมผ่านจุดนั้นมาหมดแล้ว สิ่งที่เราได้รับจากความได้ใกล้ชิดกับเค้าเยอะ ทำให้เราสื่อสารได้ง่ายกันมาก ตอนนี้เหมือนเพื่อนกัน เค้าไม่สร้างปัญหาให้ผมกุ้มใจ ทำให้ผมออกมาทำงานได้อย่างสบายใจและไม่ต้องไปกังวลเค้าในช่วยวัยรุ่น ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมก็ให้เวลากับเค้าอย่างเพียงพอเต็มที่จริงๆ ตอนนี้พยายามให้เค้าได้ทำในสิ่งที่เค้าชอบ ผมจะบอกเค้าเสมอว่าเค้าชอบอะไร อยากให้เค้ามีแรงบันดาลใจ อย่างเรื่องเรียนผมไม่ได้มาแบบต้องได้เกรดเท่าไหร่ เราเอาประสบการณ์จากเราเป็นหลักคือเด็กๆผมก็ไม่ได้เป็นคนเรียนเก่ง สุดท้ายพอเราเจอสิ่งที่เราอยากทำนั้นแหละจะเป็นสิ่งที่พาเราไปจุดนั้นจุดนี้ได้
ลูกชายทั้งสองมีแนวทางไปในทางไหน?
เค้าก็ยังเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ คนพี่คือเค้าจะเรียนแบบไม่มีการบ้าน อย่างเทอมนี้น้องคุณต้องเอาโปรเจคไปเสนอครู สมมติอยากทำเรื่องเกมเค้าก็จะไปศึกษาเรื่องนั้น ครูก็จะถามว่าทำไมถึงอยากทำเรื่องนี้ ก็จะเสนอจนกว่าจะผ่าน ครูถึงจะอนุมัติให้ทำโปรเจคนี้ได้ ผมว่ามันเหมือนทำให้เด็กเป็นสตาร์ทอัพ ได้ทำงานจริงๆ มีความมั่นใจที่จะไปพูด ไปหาข้อมูลมากกว่าที่จะมานั่งคิดเลขกับสิ่งที่เค้าไม่ได้อินตรงนั้นครับ
น้องๆมีมาปรึกษาเรื่องสาวๆบ้างมั้ย?
เดี๋ยวแม่รู้(ยิ้ม)
เรามีคุยกับพี่หน่อยบ้างมั้ยถ้าวันนึงลูกๆเรามีแฟน?
คือผมไม่มีปัญหาเลย คุณหน่อยก็ไม่มี แต่ก็แม่เนอะจะนิดนึง เค้าก็จะหวงลูกชาย ก็จะมีถามแบบว่าคนนั้นใคร จริงๆก็เพื่อนๆเค้านี่แหละ บางทีเราก็ถาม แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราถามเค้าไปแล้วเค้าจะตอบมาทุกเรื่อง ถ้าวันนึงเค้าอยากจะเล่าเค้าจะเดินมาหาผมเอง จะเป็นอย่างนั้นมากกว่า
ถามถึงบ้านที่เราปลูกไว้ที่ประเทศญี่ปุ่น?
ไม่ได้ไปเลยครับ โดวิดครับทำอะไรไม่ได้เลย พอผมมาทำละครก็เลยไม่ได้คิดเรื่องเที่ยวเลย รอให้โปรเจคซุปตาร์2550 จบก่อน สิ้นเดือนหน้าก็น่าจะจบแล้ว ก็เป็นเรื่องของตัดต่ออีก บ้านที่ญี่ปุ่นก็มีคนดูแลครับ