ผู้ว่าฯ สัญจร 50 เขตทุกอาทิตย์เริ่ม 19 มิ.ย. (มีคลิป)

2022-06-14 17:34:57

ผู้ว่าฯ สัญจร 50 เขตทุกอาทิตย์เริ่ม 19 มิ.ย. (มีคลิป)

Advertisement

ผู้ว่าฯ สัญจรลงพื้นที่ 50 เขตทุกวันอาทิตย์เริ่ม 19 มิ.ย.   พร้อมนัดหารือจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย 

เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 65 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ครั้งที่ 8/2565 โดยมีคณะผู้บริหาร กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมและวางแผน (War Room) ชั้น 35 อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร 2 เขตดินแดง

ก่อนเริ่มการประชุม ผู้ว่าฯกทม. ได้ขออภัยที่เลื่อนการประชุมจากเมื่อวานมาเป็นวันนี้ เนื่องจากติดภารกิจส่วนตัว และมีเรื่องแจ้งให้ทราบก่อนเข้าวาระการประชุม คือ ให้แต่ละเขตเตรียมตัวเริ่มนโยบายผู้ว่าฯกทม. สัญจร เยี่ยมเยียนทุกเขต จากนี้ทุกวันอาทิตย์จะลงพื้นที่ไปตามชุมชนต่าง ๆ สำหรับรายละเอียดจะแจ้งอีกครั้งในการประชุมหัวหน้าหน่วยงาน กทม.ในวันที่ 16 มิ.ย. นี้ ในส่วนสถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองในพื้นที่ กทม. จะมีการจัดพื้นที่ชุมนุมตามที่มีนโยบายว่าจะเสนอพื้นที่ให้มีการชุมนุมได้ตามมาตรา 9 พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกให้เกิดความปลอดภัยต่อทุกฝ่าย โดยยืนยันว่า กทม. ไม่สนับสนุนความรุนแรงทุกรูปแบบ

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังจากการประชุมว่า วันนี้ได้มีการประชุมเรื่องสำคัญ 5 เรื่อง เรื่องแรกเป็นเรื่องของงบประมาณ สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 มีวงเงินทั้งหมด 79,000 ล้านบาท ได้ดำเนินเสร็จแล้วตามกฎหมายจะต้องส่งให้สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พิจารณารายละเอียดเบื้องต้นก่อนใช้งานประมาณ 3 เดือน ก็จะส่งให้ ส.ก. ภายในเดือน ก.ค. 65 ทั้งนี้  กทม.มีงบผูกพันจำนวนมาก 126 โครงการ วงเงินรวม 98,710 ล้านบาท ทำไปแล้ว 14,722 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการระยะยาว สำหรับปี 2566 มีงบลงทุนใหม่ 1,695 ล้านบาท ซึ่งโครงการตามนโยบายที่กำหนดไว้อาจจะยังไม่ทันในงบประมาณนี้เนื่องจากได้ดำเนินการมาก่อนหน้าแล้ว ก็จะนำไปใส่เพิ่มเติมในวาระ 2 หรือวาระ 3 ต่อไป ส่วนงบประมาณปี 2565 หากนโยบายใดที่มีความสอดคล้องหรือมีอยู่ในงบประมาณแล้วก็ดำเนินการได้เลย ส่วนนโยบายไหนที่ยังไม่มีอยู่ในงบประมาณหรือแผนปฏิบัติราชการก็จะผลักดันเพิ่มให้อยู่ในแผนปฏิบัติราชการก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้ สำหรับโครงการที่ใช้เงินมากสุดน่าจะเป็นโครงการเกี่ยวกับการติดตั้งระบบควบคุมไฟจราจรภาพรวม ปัจจุบันคาดว่าน่าจะมีงบประมาณปี 2565 ที่ยังใช้ไม่หมดและค้างอยู่ประมาณ 7,500 ล้านบาท ก็จะเร่งรัดดำเนินการให้ทันในปีงบประมาณ ทั้งนี้ ยังเป็นห่วงเรื่องการจัดเก็บภาษีเพราะ กทม.มีรายได้จากการจัดเก็บภาษี และภาษีหลักคือภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมารัฐบาลให้เก็บภาษีแค่ 10% ปีนี้จะเป็นปีแรกที่จะเก็บตามที่กำหนดไว้ โดยปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 12,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบันเก็บได้ประมาณ 10% เท่านั้น จึงจะต้องเร่งรัดจัดเก็บภาษีให้ครบตามกำหนดต่อไป

ส่วนเรื่องของการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย จากการรายงานในที่ประชุมปัจจุบันมีจุดผ่อนผันเหลือประมาณ 80 กว่าจุด สัปดาห์นี้จะมีการนัดประชุมเพื่อหารือแนวทางดำเนินการ เนื่องจากถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ใช้ทางกับผู้ค้าต้องให้สามารถอยู่ด้วยกันได้ เบื้องต้นอาจเป็นลักษณะการจัดหาพื้นที่ของเอกชนหรือหน่วยงานราชการที่เป็นที่ว่างหรือบริเวณหน้าอาคารที่สามารถจัดเป็นพื้นที่ขายของสำหรับหาบเร่หรือศูนย์อาหาร (hawker center) ซึ่งจะดำเนินการอย่างละเอียดรอบคอบ โดยมีการนำร่องในแต่ละเขตต่อไป ส่วนการป้องกันการทุจริตกรณีหาบเร่แผงลอยนั้นจะมอบหมายให้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่รับผิดชอบไปดูแนวทางดำเนินการ

สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ปัจจุบันแนวโน้มดีขึ้น ผู้ป่วยลดลง ซึ่ง กทม.ได้เสนอแนวทางที่เป็นทางเลือกให้กับประชาชนโดยสามารถเลือกได้ว่าไม่สวมหน้ากากในสวนสาธารณะหรือพื้นที่โล่งด้วยความสมัครใจ แต่หากใครยังสวมหน้ากากอนามัยต่อก็สามารถทำได้ แต่ในสถานที่ที่มีคนแออัดยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยต่อ ขณะนี้ได้เสนอเข้าที่ประชุม ศบค. ชุดเล็กแล้ว โดยจะมีการนำเข้าที่ประชุม ศบค. ในวันที่ 17 มิ.ย. 65 และรอดูว่าผลจะเป็นอย่างไร

ผู้ว่าฯกทม. กล่าวด้วย สำหรับเรื่องกัญชาเสรี เป็นเรื่องที่ค่อนข้างกังวล โดย กทม. มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 3 ส่วน ได้แก่ สำนักการแพทย์ สำนักอนามัย และสำนักการศึกษา โดยสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ได้รายงานข้อมูลผู้ป่วย Overdose กัญชาที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสังกัดสำนักการแพทย์ พบ 4 ราย ดังนี้ 1. โรงพยาบาลตากสิน ผู้ป่วย 2 ราย เพศชายอายุ 17 ปี และ 25 ปี อาการใจสั่น คาดว่าเกิดจากผลข้างเคียงของการเสพกัญชา 2. โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ 1 ราย เพศชาย อายุ 51 ปี แน่นหน้าอกหลังเสพกัญชา มีอาการหัวใจล้มเหลว และหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ก่อนเสียชีวิตในภายหลัง และ 3. โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธฺโร อุทิศ 1 ราย เพศชายอายุ 16 ปี 6 เดือน เสพกัญชามาก Overdose ขณะนี้ On ET tube อยู่ ICU ซึ่งเป็นข้อมูลแสดงให้เห็นว่าต้องเตรียมด้านการแพทย์ให้ดี อาจจะผู้คนบางส่วนยังไม่เข้าใจ ต้องพยายามให้ความรู้ให้มากขึ้น และต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ ในส่วนของโรงเรียนก็กังวล จะต้องให้ความรู้แก่ครู นักเรียน ผู้ปกครอง อย่างเข้มข้น

ผู้ว่าฯกทม.  กล่าวด้วยว่า ขณะนี้มีแนวคิดว่าจะร่างประกาศ เริ่มต้นให้โรงเรียน กทม. ปลอดกัญชา จะต้องไปดูในมิติอื่นๆ ด้วยว่าจะเขียนแบบไหน เช่น ร้านอาหารรอบๆ โรงเรียนเอง หากมีส่วนประกอบของกัญชาอยู่แม้ในกฎหมายจะทำได้ แต่ไม่อยากให้เด็กนักเรียน กทม. ไปสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้ เพราะในบางครั้งมันเป็นประตูไปสู่ยาเสพติดตัวอื่น ๆ ทั้งนี้ ถือเป็นเรื่องใหม่ของ กทม. ที่ต้องหาข้อมูลเรื่องกัญชา ผลดี ผลเสีย แต่เมื่อเป็นกฎหมายออกมาก็ต้องปฏิบัติตาม โดย กทม. มีหน้าที่ต้องดูแลทั้งเด็ก และนักเรียน รวมทั้งให้ข้อมูลที่ถูกต้องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน

สำหรับโครงการผู้ว่าฯ สัญจร ลงพื้นที่เขตต่าง ๆ ทุกวันอาทิตย์ เพื่อติดตามการดำเนินงานด้านต่าง ๆ รับฟังปัญหาจากสำนักงานเขต และพบปะประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ต่าง ๆ ทั้ง 50 เขต เพื่อหาแนวทางดูแลและช่วยเหลือประชาชนในเรื่องต่าง ๆ เพิ่มเติม จะเริ่มวันอาทิตย์ที่ 19 มิ.ย. 65 เป็นครั้งแรกที่สำนักงานเขตคลองเตย เนื่องจากเขตคลองเตย ลักษณะการลงพื้นที่จะเริ่มต้นในช่วงเช้าเป็นรูปแบบการปลูกต้นไม้ รับฟังแนวทางการดำเนินงานและปัญหาของสำนักงานเขต ช่วงบ่ายพบปะพูดคุยกับประชาชนในพื้นที่

นอกจากนี้จะยังเตรียมพิจารณาจัดหาพื้นที่ทางเลือกรองรับการแสดงความคิดเห็นของผู้ชุมนุม ซึ่งกทม.ต้องดูแลทุกคน ทุกฝ่าย และประกาศจุดยืนไม่สนับสนุนความรุนแรงใด ๆ ขณะเดียวกัน กทม.มีหน้าที่ต้องดูแลประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้าร่วมชุมนุมด้วยทั้งผู้ที่เดินบนทางเท้า และผู้อาศัยบริเวณที่ชุมนุม โดยฝ่ายพัฒนาชุมชนฯ และสำนักพัฒนาสังคม ต้องไปลงพื้นที่พบปะประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเพื่อดูว่าจะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร จะพิจารณาจัดหาสถานที่สำหรับจัดชุมนุมไว้ให้ผู้ที่ต้องการแสดงออกทางการเมือง ถือเป็นทางเลือกหนึ่ง โดยไม่กีดขวางการจราจรและมีความปลอดภัยมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายถึงจะต้องไปจัดชุมนุมที่นั่น ในเบื้องต้นอาจจะเป็นพื้นที่ของ กทม.

ผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงการจัดกิจกรรมดนตรีในสวนจะดูตามความเหมาะสม โดยถือเป็นเรื่องดีที่หน่วยงานต่าง ๆ ได้มาร่วมจัดกิจกรรม และขอขอบคุณกองทัพบกที่ได้มีการจัดดนตรีในสวน เป็นการช่วยประชาสัมพันธ์กิจกรรมด้วยอีกทางหนึ่ง ซึ่งต่อไปอาจจะเชิญวงดุริยางค์ทหารมาร่วมกิจกรรมดนตรีในสวนที่ กทม. จัด เพราะวงเป็นวงที่มีแต่คนเก่ง ๆ ทำให้ประชาชนได้สนุกสนานด้วย