สธ.ประเมินโควิดไทยพ้นระบาดใหญ่

2022-06-08 16:01:54

สธ.ประเมินโควิดไทยพ้นระบาดใหญ่

Advertisement

สธ.ประเมินโควิดประเทศไทยพ้นระบาดใหญ่ ไม่ประกาศถอดหน้ากาก ให้สิทธิประเมินความเสี่ยงตัดสินใจได้  การันตีวัคซีนป้องกันเป็นทองคำ ไม่ใช่ขยะ ไม่มีใครปัญญาอ่อนเอาไปทิ้ง 

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.65 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กทม. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี  และ รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ร่วมงาน Meet the Press : Move on จากโควิด 19 ใช้ชีวิตแบบมั่นใจ เพื่อให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลางในการสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกันไปยังประชาชน ให้เกิดความมั่นใจเตรียมพร้อมเข้าสู่โรคประจำถิ่น

นายอนุทิน กล่าวว่า จากรายงานสถานการณ์โควิดดีขึ้นแล้ว แนวโน้มลดลงต่อเนื่อง ยอดติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่า 3,000 รายต่อวัน เสียชีวิตต่ำกว่า 30 รายต่อวัน เป็นระยะเวลา 2-3 สัปดาห์แล้ว ยืนยันถึงประสิทธิภาพในการควบคุมโรค และความร่วมมือของประชาชน ในการปฏิบัติตามคำแนะนำในการควบคุมป้องกันโรค วันนี้เป็นเวลาที่เราจะต้องมีการสื่อสารเพิ่มเติมเพื่อเตรียมความพร้อมประชาชนและประเทศไทยในการปรับวิถีชีวิตไปสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งการเป็นโรคประจำถิ่นไม่ได้หมายความว่าความรุนแรงลดลง แต่เป็นโรคที่จะต้องอยู่กับเรา และเราต้องอยู่กับมัน แต่การเป็นโรคประจำถิ่นจะทำให้เรามีความคุ้นชินและเข้าใจในการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัย เลี่ยงความเสี่ยงในการติดเชื้อ แต่ยังมีปัญหาคนจำนวนมากยังไม่ฉีดวัคซีน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเร่งรณรงค์ให้คนที่ยังไม่ยอมฉีดวัคซีนมาฉีดวัคซีนต่อไป ทั้งนี้การสื่อสารเป็นส่วนสำคัญมากที่จะทำให้คนเหล่านี้เข้าใจว่าการได้รับวัคซีนอย่างถูกต้องครบจำนวนที่สมควรจะได้รับ จะทำให้คันติดเชื้อ เสียชีวิตในแต่ละวันลดลง ตอนนี้ยังไม่อยากพูดว่าสำเร็จแล้ว แต่มีความสัมฤทธิ์ผลตามเป้าหมายที่วางไว้ 

"ผมมีความพยายามที่จะคืนความเป็นปกติส่งให้พี่น้องประชาชนมากที่สุด ในการพูดถึงการถอดหน้ากาก การกลับมาช่วยชีวิตปกติ การเปิดทุกอย่างไม่ต้องมีข้อจำกัดใด ๆ ก็เป็นเป้าหมายของกระทรวงสาธารณสุขเหมือนกัน เพียงแต่เราต้องใช้ความเข้าใจของสถานการณ์ ของแต่ละคนด้วย ถ้ามีความเสี่ยงก็ประเมินได้ ถ้าเสี่ยงก็หยิบหน้ากากมาใส่ได้เป็น Option แต่คงไม่มีประกาศว่าจะต้องถอดหรือว่าใส่หน้ากากอะไรออกมา ใครจะใส่ก็ใส่ ใครจะถอดก็ถอดอยู่ที่การประเมินสถานการณ์ของแต่ละคน" นายอนุทิน กล่าว

ส่วนกรณีมีวัคซีนไม่ใช้แล้วคนออกมาพูดว่าขยะวัคซีน เป็นของไม่ดีนั้น  นายอนุทิน กล่าวว่า คนที่เขียนก็เป็นคนใน สธ. แต่ยืนยันว่านี่ไม่ใช่ขยะ แต่เป็นทองคำ และเอาไปไว้ในเครือข่ายเพื่อไปบริการประชาชน ไม่มีใครปัญญาอ่อนพอที่จะทิ้งวัคซีนซึ่งเป็นของมีค่า ที่ควรเอาไปไว้ในร่างกายประชาชนให้เกิดความปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ ลดอาการหนัก และลดความเสี่ยงในการเสียชีวิต ซึ่งขยะคงไม่สามารถบันดาลให้เกิดสิ่งที่ดีเหล่านี้แก่มนุษย์ได้ ดังนั้น ขอให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขทำความเข้าใจเรื่องนี้แก่ผู้ปฏิบัติงานภายใต้บังคับบัญชาให้เข้าใจ ใครยังไม่เข้าใจขอให้เชิญตัวมาอธิบายให้ฟังจากคนที่มีความรู้ทางด้านวิชาการ ในฐานะที่เป็น รมว.สาธารณสุขขอให้คำยืนยันด้วยเกียรติยศทุกอย่างที่ตนมี ว่ากระทรวงสาธารณสุขจัดวัคซีน จัดเวชภัณฑ์ จัดยา ทุกอย่างที่มีประโยชน์ มีสรรพคุณสามารถรักษาประชาชนได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคโควิดหรือโรคใด ๆ ก็แล้วแต่ ไม่มียาหยวน ๆ ที่เอามาใช้เพื่อบรรเทาอาการไปก่อน ลดอาการไปก่อน แล้วค่อยว่ากันทีหลัง มีแต่ยาที่เอามารักษาให้หายจากการเจ็บป่วย มีวัคซีนที่ป้องกันให้รอดพ้นจากการติดเชื้อทุกโรค ดังนั้นขอให้พี่น้องประชาชนเกิดความมั่นใจ ประเทศต่าง ๆ ชื่นชมไทย แต่มีแต่คนไทยเท่านั้นแหละ ที่ยังไม่พอใจ ดังนั้นต้องสร้างความเข้าใจให้ภายในทิศทางเดียวกัน จะเอาสุขภาพของประชาชนมาเล่นไม่ได้ เอามาเป็นตัวประกันไม่ได้ เอามาเป็นสิ่งที่ต่อรองอะไรกันไม่ได้ทั้งนั้น  เรื่องสุขภาพของประชาชนหากเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่มีการต่อรอง เราต้องยืนยันในเจตนารมณ์ทิศทางของเราเท่านั้น

ด้าน นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า สธ.แนะำให้ใส่หน้ากากอนามัย ซึ่งป้องกันโรคต่าง ๆ ได้ อย่างไรก็ตามสธ.ได้เสนอเข้าที่ประชุมศบค.เพื่อพิจารณาแล้ว ทั้งกรณีกลุ่มเสี่ยง สถานที่เสี่ยง กิจกรรมเสี่ยง ทั้งนี้ ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโควิด -19 หรืออีโอซี มีการพิจารณาสถานการณ์ดีขึ้นเป็นไปตามแผน  โรคนี้น่าจะเข้าสู่ระยะท้าย ๆ แล้ว ทุกจังหวัดเข้าสู่ระยะ declining ไม่มีการระบาดใหญ่ เปิดเทอมก็ไม่พบปัญหา เปิดสถานบันเทิงก็ยังไม่พบปัญหา แต่เฝ้าระวังต่อว่าจะมีปัญหาในอนาคตหรือไม่ แต่มีการประเมิน คาดการณ์โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเราผ่านระยะการระบาดใหญ่มาแล้ว สามารถเข้าสู่การดูแล เฝ้าระวังตามสมควร ส่วนจะประกาศลดระดับการเตือนภัยโควิดหรือไม่นั้น รอดูสถานการณ์หลังเปิดผับบาร์ก่อน คาดว่ากลางเดือน  มิ.ย.นี้.