หายหน้าหายตาจากวงการนางร้ายไปนานพอตัว สำหรับสาวไซส์มินิ “แก้มบุ๋ม-ปรียาดา” ที่ช่วงหลังไม่รับงานละครท้าทายเปลือกทุเรียนซักเท่าไร จนถูกเม้าท์แรงๆจากชาวโซเชียลว่าเป็นดาราตกอับ ผันตัวไปเป็นแม่ค้าออนไลน์ไลฟ์สดขายของทุกชนิด พร้อมกับธุรกิจใหม่ที่กำลังไปได้สวยอย่างการเป็นแม่ค้าไลฟ์สด แกะหอยงัดไข่มุกขาย ที่กำลังทำเงินโกนรายได้ถล่มถลาย งานนี้เจ้าตัวพร้อมอัปเดตเปิดใจเคลียร์ทุกข่าวคราวกับ พิธีกรตัวแม่ “หนูแหม่ม-สุริวิภา” แห่งรายการดัง “โต๊ะหนูแหม่ม” ทางช่องเวิร์คพอยท์ แบบตรงไปตรงมา
หายหน้าไปจากหน้าจอทีวีนานมาก?
“คือไม่มีผลงานมา 5ปีแล้ว มีแค่รับเชิญแว้บๆ ซีรีส์เล็กๆน้อยๆ ตอนนี้ก็แกะหอยโชว์ หอยไข่มุก ไม่ใช่หอยอย่างที่พวกคุณๆคิด หอยมุกค่ะ หอยมุก มันมาจากความที่หนูชอบด้วย ก็เลยมาไลฟ์ขายหอย”
แต่เราเป็นดาราคนแรกๆที่มาเป็นแม่ค้าออนไลน์?
“จริงๆหนูขายของออนไลน์มากว่า 20 ปี เริ่มแรกขายเสื้อผ้ามือสองของตัวเอง เพราะว่าเป็นคนที่ใส่เสื้อผ้าครั้งเดียว แล้วก็ไม่ใส่ซ้ำ เพราะว่าเสื้อผ้าเราถูก แม่บอกตั้งแต่เข้าวงการว่าอย่าใส่เสื้อผ้าซ้ำนะลูก เพราะฉะนั้นหนูใส่เสื้อผ้าครั้งเดียวแล้วขาย สิ่งเดียวที่ใส่ซ้ำคือเสื้อใน กางเกงใน (หัวเราะ) เริ่มขายจากในอินสตราแกรม 80-50-20 บาท ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง20 ตอนนั้นน่าจะประมาณ 17-18”
ทำไมเข้าสู้วงการแม่ค้าขายหอย?
“คือเราชอบ เหมือนกับว่าคนไทยชอบลุ้น ชอบเรื่องเสี่ยงดวง แปลกตา อันนี้เป็นเรื่องความตื่นเต้น อย่างหอยที่ขายเนี้ย เราไม่สามารถลุ้นได้ว่าจะมีมุกกี่อัน ที่ขายคือมันเป็นหอยเลี้ยง ธรรมชาติครึ่งนึง คนครึ่งนึง นำเข้ามา แต่บอกมากไม่ได้นะคะ เดี๋ยวคนไปทำตาม มันสนุกในการลุ้นว่าแกะมาจะมี่กี่เม็ด หนูก็ศึกษาเป็นลูกค้าท่านนึงมาก่อน ที่ติดตามการขายไข่มุก หมดเงินไปหลายแสนบาทกับการลุ้นเปิดมุก สุดท้ายไม่ถูกจริตแม่ค้าร้านนึง เราหมดหลายบาทไม่ให้เป็นลูกค้าวีไอพี ก็เลยโกรธไปศึกษาเอง ก็ศึกษาว่ามันทำยังไง เปิดมุกเสร็จต่อยอดเป็นเครื่องประดับยังไง ซื้อมุกขั้นตอนนึง ซื้อเครื่องประดับขั้นตอนนึง”
รายได้เยอะไหมในการขายหอย?
“(หัวเราะ) ก็เรื่อยๆ นิดหน่อย พูดไป เรื่องแบบนี้พูดไม่ได้หรอก มันเป็นความลับ แต่มันเทียบไม่ได้กับการเป็นดารา เบอร์ 30-40แบบหนู มันก็จะมีเงินน้อย งานน้อย ไม่มีอะไรมาก ฉะนั้นมีเงินช่องทางเดียวตายค่ะ มันเป็นงานหลักในการหาเงินไปแล้วสำหรับการขายของออนไลน์”
โดนวิจารณ์ว่าเป็นดาราตกอับจนต้องมาเป็นแม่ค้า?
“ฮุ้ย..ข้างซอยบ้านเขาเดินมาแล้วก็บอกว่าบ้านนี้ดาราตกอับ อยากจะกระโดดทุบหัว หนูอยากจะบอกว่าดูบ้านพี่ก่อนไหมคะ (ทำท่าตลกใส่) เขาฟาดหนูได้ ทำไมหนูจะฟาดกลับไม่ได้ หนูไม่รู้สึกอะไรเพราะเงินเข้ากระเป๋าหนู วันนึงเขาอาจจะมาเป็นลูกค้าหนูก็ได้ คนที่งอมืองอเท้าคือคนที่ไม่มีค่า แต่คนที่ทำงานหาเงินตลอดเวลาคือคนที่มีค่า การทำงานช่องทางเดียว ไม่ใช่ทางรอดของ ณ วันนี้”