นายกฯแจงหนุนค่าตอบแทน พนง.สอบสวน ครวญงบ กห.ใช้อย่างจำกัด เตรียมพร้อมถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นอนาคต
เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชี้แจงกรณีที่มีสมาชิกอภิปรายงบประมาณของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ว่าปัจจุบันพนักงานสอบสวน ได้รับเงินค่าตอบแทนวิชาชีพเพิ่มถึง 400 ล้านบาทเศษ และใกล้สิ้นปี ตร.ได้จัดสรรเพิ่มอีก 50 – 100 ล้านบาท เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เพราะพนักงานสอบสวนถือเป็นสายงานสำคัญ เพื่อความก้าวหน้าจึงแก้ไขระเบียบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะเป็นหัวหน้าสถานีตำรวจ ต้องผ่านการดำรงตำแหน่งพนักงานสอบสวนมาก่อน และจะบรรจุพนักงานสอบสวนเพิ่ม 1,700 นาย รวมพนักงานสอบสวน 1.3 หมื่นนาย พร้อมกับบรรจุผู้ช่วยพนักงานสอบสวนชั้นประทวน 3,500 นาย เพื่อแบ่งเบาภาระจากคดีที่เพิ่มขึ้น
นายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนงบประมาณของตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ที่สมาชิกบางท่านบอกไม่มีความจำเป็น รวมถึง รร.ตำรวจตระเวนชายแดน ภารกิจหลักคือป้องกันไม่ให้รุกล้ำอธิปไตย ดูแลผลประโยชน์ชาติ พัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อดูแลประชาชนในถิ่นทุรกันดาร ยากที่ครูทั่วไปจะเข้าไปปฏิบัติภารกิจได้ จึงต้องเข้าไปจัดตั้ง รร.ตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อเปิดการเรียนการสอนไปก่อน นอกจากนี้ ยังให้บริหารทางการแพท์เบื้องต้นแก่ประชาชนที่อยู่ไกลทุรกันดาร ดังนั้น งบประมาณ 3 พันล้านบาท จึงเหมาะสมกับผลสัมฤทธิ์กับภารกิจที่รับผิดชอบ การที่ส.ส.บางท่านกรุณาพูดเมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) นึกถึงหัวอกคนทำงานตามชายแดนบ้าง เขาเสี่ยงภัยทุกวัน เขาก็มีครอบครัว มีชีวิตจิตใจเหมือนกัน ส่วนการปฏิรูประบบงานตำรวจ กิจกรรมบริหารทรัพยากรด้านที่พักอาศัยก็เป็นส่วนหนึ่ง เนื่องจากเป็นสวัสดิการที่พักอาศัยแก่ข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตตำรวจ ให้มีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน เราจำเป็นต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปปฏิบัติหน้าตลอด 24 ชม. ถ้าเรียกเขาไม่ได้จะเรียกใคร สถานที่ทำงานจึงจำเป็นต้องอยู่ใกล้ที่พักเพื่อให้เรียกตัวได้ทันที อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาที่พักยังไม่เพียงพอต่อเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ ยังขาดแคลน 20% หรือประมาณ 4 หมื่นยูนิต ถ้างบประมาณได้ก็ทำ ถ้าไม่ได้ก็ไม่ทำ
พล.อ.ประยุทธ์ ยังชี้แจงงบประมาณของกระทรวงกลาโหม ว่าพยายามใช้งบอย่างจำกัด เพื่อเตรียมพร้อมถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นอนาคต ไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราประมาณการตามความจำเป็นในการจัดหา จัดซื้อยุทโธปกรณ์ 2 ปีที่ผ่านมาเราลดงบไปมากพอควร แต่ขอความเห็นใจว่าการจัดทำงบพวกนี้ ต้องจัดทำแผนงานไว้ล่วงหน้า ไม่สามารถปล่อยให้หมดอายุแล้วค่อยจัดหา แต่ในเมื่อท่านบอกแพงก็ซื้อเท่านี้ก่อน ส่วนที่วิจารณ์ว่าทำไมไม่ซื้อดีๆจะได้ใช้นานๆ เหมือนกับต่างประเทศใช้ ถ้าตนขอท่านก็ไม่ให้อีก ก็เอาเท่านี้ไปก่อน แต่เรื่องการทุจริตหรือผลประโยชน์ต่างๆ ก็ไปสอบสวนกันมา เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ชี้แจงได้
“ขอให้เข้าใจกันบ้าง ไม่ใช่ว่าผมอยากซื้อไม่สนใจประชาชน ถ้าพูดกันแบบนี้จะอยู่กันอย่างไร ผมไม่ได้โทษใครแต่อยากพูดให้ฟัง ท่านก็หาว่าผมกระทบคนอื่น แต่ถึงเวลาพอมีปัญหา ผมพูดท่านก็โทษผมอยู่ดี วันนี้ที่บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ค้าขายได้ ถนนไม่ถูกปิด ใครทำงาน แม้จะมีบางคนไปส่งเสริม ผมก็ไม่ว่าเพราะมีกฎหมายดูแลอยู่ ท่านก็ว่าผมว่าไปกดดัน ไปห้าม ไปควบคุม คนที่ทำให้ท่านมานั่งพูดได้อย่างสบายใจตรงนี้ก็เจ้าหน้าที่ทั้งนั้น ถ้าท่านทำลายขวัญเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะพลเรือน ตำรวจ ทหาร อีกหน่อยใครจะทำงาน เราจะมีความสงบสุขในบ้านเมืองหรือ ปัญหาอยู่ที่หลายอย่างผมรับผิดชอบทุกวัน ทุกคนที่มีสิทธิ และหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ที่ต้องทำเพื่อประเทศชาติอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว