ข้าวหายากหมากแสนแพง !! "หมอปลาย" ทำนายดวงบ้านดวงเมือง เศรษฐกิจทรุด โรคระบาดยังไม่หยุด ทิ้งท้ายก่อนบินไปศรีลังกา 
เสร็จสิ้นพิธีบวชไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยความเรียบง่ายแสนร่มเย็นเป็นที่สงบ ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยแรงศรัทธาแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สำหรับ "หมอปลาย พรายกระซิบ" หรือ "ณวราชา พินิจโรคากร" ได้เข้าพิธีขลิบผม บวชชีพรหมโพธิได้รับฉายา “ญาณวรสาวิกาโพธิ” ซึ่งแปลว่า “ผู้มีญาณอันประเสริฐ” ก่อนบินลัดฟ้าสู่ศรีลังกา บวชภิกษุณี เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งก่อนลาบวชนั้นเธอได้ทิ้งคำทำนายเอาไว้ให้แก่บ้านเมืองในด้านต่างๆ ที่ทำเอาหลายคนต้องตะลึง !!
โดยเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา "หมอปลาย" ได้เดินทางไปเจอ "วู้ดดี้ วุฒิธร" พิธีกรดังเพื่อขอขมาลาบวช เนื่องจากจะเดินทางไปบวชที่ประเทศศรีลังกา ระยะเวลานาน 1 ปี ในการนี้พิธีกรหนุ่มจึงขอให้เธอทำนายดวงบ้านเมืองทิ้งท้ายเอาไว้ พบว่ามีเกณฑ์จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเป็นอันมาก พร้อมทั้งมีบางอย่างที่น่าตกใจอีกด้วย เริ่มต้นที่การถามไถ่วัตถุประสงค์ในการบวชครั้งนี้ ซึ่ง "หมอปลาย" ได้ชี้แจงแถลงว่า "ท่านยมบอกเอาไว้ว่า ถ้าแม่นนะต้องบวช ชุดเหลืองด้วย ท่านยมขอสีเหลือง เลยจัดหนักเลย ถือ 311 ข้อเลยค่ะ ก็เตรียมท่องปาติโมกข์"
เมื่อถามถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่ "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากได้ตำแหน่งจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?
หมอปลาย : หนูกลัวอย่างหนึ่งกลัวมีอะไรผิดพลาดแล้วอยากเปลี่ยนกลางทาง แต่ขอให้ไม่เกิดขึ้น ดูแล้วว่าเป็นผู้ชายหน้าตูบ รุ่นคุณน้า ก่อนเลือกตั้งเห็นเป็นคุณชัชชาติ แต่พูดไม่ได้ เห็นเลยว่าชนะขาด แต่เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา เห็นว่าจะมีคนพยายามดึงลงอีก ตอนนี้อยากให้รอทุกอย่างให้ชัดเจนประมาณ 1 - 2 อาทิตย์ แล้วค่อยดีใจกัน แต่ขอให้ไม่มีอะไร เพราะถ้าคนดีขึ้นทุกอย่างดี แบบดีมาก เขาจะสู้เพื่อเรา
คนชอบโยงว่าคุณชัชชาติไม่ได้อิสระ มีเบื้องลึกเบื้องหลัง หมอปลายคิดว่าอย่างไร วู้ดดี้บอกว่าสำหรับตนมองว่าเขาอิสระมาก แต่ช่วงนี้มันมีกระแสเยอะมาก ?
หมอปลาย : หนูดูว่าเขาไม่ได้อิสระขนาดนั้น มีคนที่เป็นแบ็กคอยช่วย คอยสนับสนุนอยู่ แต่เป็นสิ่งที่ดีเพื่อความเปลี่ยนแปลง
กรุงเทพฯ จะเปลี่ยนไปขนาดไหน ?
หมอปลาย : ต้องใช้เวลา เขาต้องไปสู้รบกับคนภายในก่อน อาจจะใช้เวลาถึง 2 ปี
ภายในที่มีปัญหาคือเรื่องอะไร ?
หมอปลาย : เปลี่ยนคน เปลี่ยนแผน เปลี่ยนกลุ่ม ไม่สามารถเดินตามที่เขาคิดไว้ได้ทั้งหมด
จะมีพรรคอื่นมาช่วยเขาไหม เพราะเห็นออกข่าวว่าจะมีการยื่นมือเข้ามาช่วย ?
หมอปลาย : มีค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นสีน้ำเงินกับสีแดง ช่วยเยอะมาก
เมื่อเขาเริ่มหมดอำนาจแล้ว การเมืองเดินต่ออย่างไร ?
หมอปลาย : สิ่งที่น่าลุ้นมากกว่านี้คือช่วงประมาณกันยายน - ตุลาคม ที่เห็นคืออาจมีการเปลี่ยนหรือปรับอะไรบางอย่างภายใน ที่รู้แล้วว่าขั้วเก่าใกล้หมดแล้ว หมายถึงในระดับประเทศ ประมาณกันยายน - ตุลาคม จะรู้แล้วว่าเขาเริ่มหมดอำนาจ
น่าพะวงสุดๆ คือด้านเศรษฐกิจพังมาก ?
หมอปลาย : เศรษฐกิจปีนี้คือหนักมาก พังจริงๆ
แค่นี้ที่ว่าก็พังแล้วนะ มันจะพังกว่านี้อีกเหรอ ?
หมอปลาย : พังแบบพังสุดๆ เลยค่ะ มันเกือบจะเหมือนสงครามโลก แต่ก็ไม่เชิง มันคล้ายกับแฮมเบอร์เกอร์กับต้มยำกุ้งผสมกัน ต้องดูแลตัวเองให้ดี มีกลุ่มคนที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจในวิกฤตแบบนี้ อยากเป็นเจ้าของธุรกิจไม่ผิด แต่อาจเจอปัญหาที่ลงทุนไปแล้วไม่มีคนใช้บริการ ไม่มีคนซื้อ
หยุดฟัง ! คนทำงานประจำ - เจ้าของธุรกิจ
หมอปลาย : เรื่องงานประจำสำคัญที่สุด อย่าเพิ่งอยากให้ตัวเองเป็นอิสระ ถ้ามีงานมีเงินเดือนห้ามปล่อยเด็ดขาด ถ้าเป็นอิสระอาจจะไม่มีเงินเหลือเลย ส่วนคนที่ทำบริษัท ทำแล้วต้องหาอะไรทำเสริม ทุกอย่างต้องมีแผน 1 และแผน 2 อย่าทำอะไรแค่แผนเดียว
เศรษฐกิจ สิ่งที่เห็นว่าหนักสุด ที่จะเกิดขึ้นคือเรื่องอะไร ?
หมอปลาย : กู้เงินเพิ่มก้อนใหญ่อีกรอบหนึ่ง มันจะเยอะไปอีก เหมือนลอตสุดท้ายเลยทิ้งทวน ซึ่งหนูก็กลัว
สำหรับการเลือกตั้งใหญ่เป็นยังไงบ้าง ?
หมอปลาย : ยังเห็นว่าจะเป็นเดือนมีนาคมอยู่ แต่ก็กลัวว่าก่อนเลือกตั้งจะเกิดอะไรขึ้นก่อน เหมือนเห็นเขาเปลี่ยนแปลงกัน มันขยับๆ อยู่อย่างนั้น หนูก็ยังไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น ความจริงแล้วทุกวันนี้ ขั้วมีอยู่แค่ 2 ขั้ว ต้องดูว่าขั้วไหนที่กระจายตัวแล้วดึงคนได้เร็วกว่า ดึงคน ดึงใจคนไทยได้มากกว่า กระจายตัวในรูปแบบของหลายพรรค เปรียบเทียบเหมือนอ่านหนังสือหลายๆ เล่ม แต่คนเขียนคนเดียวกัน
ยังมีอีก 200 กว่าชีวิต ที่ยังติดล็อกอยู่ คนเหล่านี้จะทำอย่างไร ?
หมอปลาย : อันนี้เหนื่อย เหนื่อยจริง หนูกลัวว่าจะมีสีน้ำเงิน หรืออะไรสักอย่างขึ้นมาก่อน คนมีสีจะขึ้นมาจัดการอะไรหลาย ๆ อย่างก่อน ขณะที่ วู้ดดี้ ถามขึ้นมาว่า หมายถึงหน้าเขาสีน้ำเงินเหรอ ? ทั้งคู่มองหน้าแล้วหัวเราะกันบอกว่าเป็นมุก หมอปลายบอกว่า โลโก้สีน้ำเงินก็ไม่น่าใช่ มีหลายน้ำเงินเหมือนกัน ยังไงต้องรอดูกันต่อไป
ฝีดาษลิง ระบาดในไทยหนักไหม ?
หมอปลาย : จะเข้าไทยช่วงเดือนกรกฎาคม 2565 ถ้าดูในระดับโลก ฝีดาษลิงไม่หนักเท่าโควิด 19 เชื้อลุกลาม แต่ก็สามารถป้องกันได้ ฉีดยาได้ ไม่ถึงกับตายเยอะ ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น ถ้า 100% ให้แค่ 20% การระบาดในไทยจะระบาดบางกลุ่ม
