"ทิพานัน" ซัดฝ่ายค้านขู่คว่ำร่าง พ.ร.บ.งบเอาปากท้อง ปชช.เป็นตัวประกัน

2022-05-29 13:54:06

"ทิพานัน" ซัดฝ่ายค้านขู่คว่ำร่าง พ.ร.บ.งบเอาปากท้อง ปชช.เป็นตัวประกัน

Advertisement

"ทิพานัน" ซัดฝ่ายค้านขู่คว่ำร่าง พ.ร.บ. งบประมาณเหมือนเอาปากท้องประชาชนเป็นตัวประกัน ย้ำรัฐบาล"ลุงตู่"ใช้งบคุ้มค่า 7 ปี วางโครงสร้างพื้นฐานหลัก กระจายความเจริญ  พัฒนาคุณภาพชีวิต ต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 29 พ.ค.65  น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าวที่จะมีการพิจารณาคว่ำร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 31 พ.ค.- 2 มิ.ย.ว่า ฝ่ายการเมืองควรพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 จำนวน 3.18 ล้านล้านบาทด้วยหลักการและความจริงใจ โดยยึดประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ใช่หวังผลทางการเมืองเพียงเท่านั้น

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า แม้โดยหลักการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา141 จะกำหนดว่า งบประมาณรายจ่ายของแผ่นดินให้ทำเป็นพระราชบัญญัติถ้าพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณออกไม่ทันปีงบประมาณใหม่ให้ใช้กฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณปีก่อนนั้นไปพลางก่อน  แต่จะไม่สามารถนำงบลงทุนมาใช้ได้ ในขณะที่การลงทุนภาครัฐยังคงเป็นเครื่องยนต์ที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซียกับยูเครน โดยเฉพาะแผนงานบูรณาการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นตัวหลักสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจและสร้างโอกาสในการแข่งขันและเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว

“ฝ่ายการเมืองต้องมองผลกระทบในภาพกว้างที่จะเกิดขึ้น หากโครงการต่างๆต้องสะดุดหยุดชะงัก ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจ การส่งสัญญาณคว่ำร่างพ.ร.บ.งบประมาณ จึงเหมือนเอาปากท้อง เอาความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นตัวประกัน”น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ที่ผ่านมาตลอด 7 ปี รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้จัดสรรและใช้จ่ายงบประมาณเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ให้ถึงมือพี่น้องประชาชน ได้เห็นถึงผลสำเร็จที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะเป็น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โครงการประชารัฐเพื่อประชาชน แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ การทวงคืนพื้นป่า แก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย การปรับภูมิทัศน์ริมคลองหลายสายให้สะอาดมีชีวิต เพิ่มพื้นที่สีเขียว เช่น สวนเบญจกิติ ใจกลางกรุงเทพ เป็นต้น  ที่สำคัญ บริหารงบประมาณเพื่อการพัฒนาโครงสร้างเพื่อเพิ่มศักยภาพโลจิสติกส์ไทย เช่น รถไฟความเร็วสูงระยะที่1 ที่จะใช้ในปี 2569 และระยะที่ 2 ที่กำลังดำเนินการ และรถไฟทางคู่ทั่วประเทศเพื่อลดระยะเวลาเดินทางได้ถึง30% รถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเพื่อรองรับ EEC พร้อมกับยกระดับเส้นทางคมนาคมทางถนนทั่วทุกภูมิภาค อย่างทั่วถึง

น.ส. ทิพานัน กล่าวต่อว่า แม้กระทั่งการรับมือโควิด-19 จนสถานการณ์คลี่คลาย จนเป็นตัวอย่างของทั่วโลก รวมไปถึงการออกมาตรการเยียวยาประชาชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางส่วนที่กล่าวมานี้คือการใช้งบประมาณที่คุ้มค่าในการพัฒนาทุกๆด้าน ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าในการจัดทำงบประมาณ ปี 2566 ก็จะช่วยยกระดับการพัฒนาประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้นแน่นอน