"ชัชชาติ" ควง "จักกพันธุ์" สำรวจที่ดินเอกชนแยกวงศ์สว่างยินดีให้ กทม. เช่าทำสวนสาธารณะ ย้ำนโยบาย "สวน 15 นาทีทั่วกรุง" จูงใจเอกชนร่วมสร้างเมืองน่าอยู่ พร้อมพบปะคนกวาดขยะลั่นต้องตอบแทนคนที่ทำให้เมืองสะอาด
เมื่อวันที่ 27 พ.ค.65 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้ว่าฯกทม. พร้อมด้วยนายจักกพันธุ์ ผิวงาม อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. เดินทางไปสำรวจที่ดินเอกชนขนาดประมาณ 2 ไร่ บริเวณสี่แยกวงศ์สว่าง ติดกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีวงศ์สว่าง ที่มีกระแสข่าวว่าเจ้าของที่ดินยินดียกให้ กทม. โดยสำนักงานเขตบางซื่อ เช่าใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาเป็นสวนสาธารณะ สอดคล้องกับนโยบายหาเสียง “สวน 15 นาทีทั่วกรุง” ของนายชัชชาติ ที่มีเป้าหมายสร้างพื้นที่สาธารณะสำหรับประชาชนใช้งานได้กระจายตัวอยู่ทุกที่ และสามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินภายใน 15 นาที
นายชัชชาติ กล่าวว่า หนึ่งในแนวทางเพิ่มพื้นที่สีเขียวคือการอาศัยกลไกทางภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจูงใจให้เอกชนมอบที่ดินให้ กทม. พัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียวเพื่องดเว้นการเสียภาษี ทั้งนี้ จำเป็นต้องทบทวนกรอบกฎหมายและอำนาจที่ กทม. สามารถดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม อยากขอเชิญชวนประชาชนที่ครอบครองที่ดินมอบที่ดินให้ กทม. เช่า เพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียวที่ก่อให้เกิดกับเมืองหลายด้าน ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ ลดอาชญากรรม ถือเป็นการทำบุญเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
ส่วนเรื่องการจัดเก็บภาษีตามโซนของผังเมือง นายชัชชาติ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก แต่ต้องดูอำนาจที่มีก่อนว่าสามารถทำได้มากน้อยเพียงใด ต้องมีการพิจารณาโดยละเอียดในแต่ละพื้นที่ว่าเป็นผังเมืองสีอะไร เช่นพื้นที่การเกษตรจะเข้าไปขึ้นภาษีมากไม่ได้ต้องพยายามทำให้ต่ำที่สุด ยกเว้นมาทำการเกษตรในพื้นที่กลางเมือง เช่นเป็นผังเมืองเชิงพาณิชย์สีแดง พื้นที่หนาแน่นปานกลางสีส้มซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมาะในการทำการเกษตร ถ้าเป็นไปได้ในอนาคตอาจมีการพิจารณาในการเอาสีผังเมืองเข้าไปร่วมเป็นมาตรการในการกำหนดภาษี แต่ยังไม่ได้เป็นข้อสรุปว่าจะมีการเพิ่มอัตราภาษี เนื่องจากต้องตรวจสอบข้อกฏหมายให้ละเอียดก่อน
"ต้องดูข้อกฏหมายก่อน ว่าเราสามารถเอาผังสีไปกำหนดร่วมกับอัตราภาษีได้หรือไม่ เพราะใน พ.ร.บ. ยังเขียนไว้ไม่ชัดเจน ซึ่งเขียนไว้ว่า กทม.มีอำนาจในการปรับอัตราภาษีให้ไม่เกิดอัตราสูงสุด แต่ไม่ได้พูดถึงว่าเอาเงื่อนไขอื่นมากำกับได้หรือไม่ ยังไม่ได้สรุปว่าจะมีการขึ้นภาษี แต่คาดว่าเราต้องไปดูว่าสุดท้ายแล้ววิธีการไหนที่กทม. มีอำนาจ ไม่ต้องเปลี่ยนกฏหมาย เอาอำนาจที่มีอยู่เดิมมาใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนที่อยู่ในเมือง หาช่องทางในการเอาพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ มาเป็นทำให้เป็นพื้นที่สาธารณะของประชาชนมากขึ้น" นายชัชชาติ กล่าว
จากนั้นนายชัชชาติ ได้ทักทายพนักงานเก็บกวาดขยะที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง พร้อมชี้แจงว่า 2 เรื่องในการส่งเสริมสวัสดิการพนักงานเก็บกวาดขยะ เรื่องแรกต้องตรวจสอบและปรับปรุงมาตรการบรรจุเข้าเป็นพนักงานประจำให้มีความยุติธรรมมากขึ้น และเรื่องที่สองคือต้องกำหนดสวัสดิการตอบแทนให้เหมาะสมเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการทำงาน เพราะพนักงานเก็บกวาดขยะเป็นส่วนสำคัญในการทำให้เมืองมีความสะอาด แม้ว่าจะมีจุดทิ้งขยะแต่ในสภาพความเป็นจริงก็มีขยะเรี่ยราดอยู่ทั่วไป พนักงานเก็บขยะเหล่านี้เป็นผู้ที่คอยช่วยเก็บรวบรวมขยะเหล่านั้น จึงเป็นกลุ่มคนสำคัญที่ทำให้เมืองสะอาดและสวยงามขึ้น