"มงคลกิตติ์" ขอเวลา 15-30 วันส่งฟ้องศาลคดี "แตงโม" คาดฟ้องแพ่ง 200 ล้าน แม่เชื่อลูกถูกฆาตกรรม เผยแม่สบายใจดี แม้ถูกโซเชียลรุมถล่ม
เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 65 ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวโดยยอมรับว่านางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของ"แตงโม" ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ได้ประสานขอให้พรรคไทยศรีวิไลย์ และชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ช่วยทำคดี ซึ่งถือเป็นทีมเดียวกันหมด เพราะนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในฐานะประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ก็เป็นที่ปรึกษาพรรคอยู่แล้ว ทั้งนี้ แม่เชื่อว่า ลูกสาวถูกฆาตกรรม โดยการทำงานจะมีการแบ่งงานกันมีทีมทนายความ ที่มีใบอนุญาตทำงานร่วมกันประมาณ 10 คน มีทีมที่ปรึกษาเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย อดีตอัยการอาวุโส อดีตผู้พิพากษาศาลสูงมาช่วยเขียนร่างคำฟ้องดำเนินคดี ตามกฎหมายอาญา มาตรา 289 (7) ต่อไป โดยทำเป็น 2 ชุด คือ คดีอาญา และคดีแพ่ง เรียกร้องค่าเสียหายประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งหลักฐานบางส่วนที่ได้มาแม้ยังไม่ครบถ้วน แต่หลักฐานบางส่วนสามารถยื่นเพิ่มเติมในชั้นอัยการได้เลย ซึ่งเป็นอีกคดีหนึ่งที่จะดำเนินการคล้ายๆกับกรณีของ พญ.ผัสพร บุญเกษมสันติ ที่บิดาดำเนินคดีฟ้องร้องเอง และแม้นายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย อดีตทนายแม่แตงโมจะเป็นที่ปรึกษาของพรรค แต่จะไม่ได้ร่วมทำคดีนี้โดยจะมอบให้ทนายของพรรค และทีมทนายอัจฉริยะร่วมทำคดี
นายมงคลกิตติ์ กล่าวด้วยว่า ช่วงเย็นวันนี้ (26 พ.ค.) ตนจะไปรับประทานอาหารและพูดคุยกับคุณแม่แตงโมถึงขั้นตอนวิธีการดำเนินการ และในวันที่ 27 พ.ค.65 จะมาแถลงความคืบหน้าที่รัฐสภาอีกครั้ง โดยมีแม่และนายอัจฉริยะ จะร่วมเดินทางมาแถลงข่าวด้วย เพื่อร่วมกันวางแผนการดำเนินคดีต่อไป เชื่อว่าภายใน 15 - 30 วัน น่าจะยื่นร้องต่อศาลได้ เพราะรับคดีมาถือว่ามาไกลพอสมควร ถ้าทุกอย่างสว่าง ข้อมูลจะมาเรื่อยๆ จะทำให้ดีที่สุด และไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใดๆกับแม่พรรคออกให้ทั้งหมด และหากแม่ฟ้องทางแพ่ง และได้รับเงินมาก็เป็นเรื่องของแม่ว่าจะเอาไปทำอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ใครเป็นฝ่ายติดต่อให้ทำคดีนี้ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า เดิมทีคุยกับแม่แตงโมอยู่แล้วตั้งแต่ต้น และคุยมาเรื่อยๆ ซึ่งแม่ก็มองว่าตนช่วยไขคดีแตงโมมานานแล้ว ก็คิดว่าแนวความคิดตรงกันในเรื่องของคดีฆาตกรรม
นายมงคลกิตติ์ กล่าวถึงกรณีที่ให้โทรศัพท์มือถือบังแจ็ค ว่าเป็นสิทธิ์ของแม่ เพราะเป็นเจ้าของทรัพย์สิน และไม่ได้ให้ไปเลย แต่ให้ไปกู้ข้อมูลที่ถูกลบไป ช่วงเวลาของวันที่ 24 ก.พ.65 ระหว่างเวลา 20.15 - 24.00 น. สำหรับบังแจ็คถือว่าเจตนาดี เพราะช่วยกู้ข้อมูลจากมือถือออกมาได้ ซึ่งกำลังตรวจสอบว่า ข้อมูลนี้ถูกลบเมื่อไหร่และเห็นว่าทุกคนที่มาร่วมไขคดีเพื่อให้เกิดความยุติธรรมถือเป็นพลเมืองดีทั้งสิ้น หลังจากนี้ใครมีคลิปหรือข้อมูล ขอให้แจ้งมาที่ตนโดยตรงไม่ต้องกลัวความไม่ปลอดภัย เพราะพรรคไทยศรีวิไลย์มีอดีตทหารจำนวนมาก และนักรบก็มาก ทั้งในและนอกระบบ
“แม่สบายใจดี แม้จะถูกสังคมโจมตีอย่างหนัก หลังส่งมือถือให้บังแจ็ค แต่ส่วนตัวเชื่อว่าแม่ไม่มีพฤติกรรมบกพร่องตามที่สังคมวิจารณ์ เชื่อว่าแม่ทุกคนรักลูกเพราะตั้งครรภ์มา 9 เดือน แต่แม่อาจตกเป็นเครื่องมือของสื่อบางสื่อหรือผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียล” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
ต่อข้อถามถึงกรณีที่ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ไม่ทำคดีให้กับแม่แตงโมแล้วนั้น นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า อาจเป็นเรื่องความเห็นที่ไม่ตรงกันที่แม่มองว่าน่าจะเป็นฆาตกรรม แต่ทนายเดชามองว่าเป็นเรื่องอุบัติเหตุ และไม่ขอให้ความเห็นว่าเหตุใดทนายเดชาถึงโพสต์ว่าหมดเวรหมดกรรมหลังถอนตัวจากคดีนี้
นายมงคลกิตติ์ ยังยืนยันว่า การทำคดีแตงโม คือภารกิจของ ส.ส. ไม่กระทบต่อการเตรียมการอภิปรายร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพราะเตรียมตัวอยู่แล้ว ซึ่งใช้เวลาในการอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร แค่ 25 นาที ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น อยู่ในสายเลือดอยู่แล้ว แค่มองตาก็รู้แล้วว่ารัฐมนตรีคนนี้ทำผิดอะไรบ้างเมื่อถามถึงกรณีที่ ส.ส.กลุ่ม 16 จะมาร่วมไขคดีแตงโมด้วยนั้น นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณ เพราะถือเป็นเรื่องส่วนรวม และทางกลุ่ม 16 ยังได้ร่วมลงชื่อในร่างพ.ร.บ.สืบสวนคดีอาญาพ.ศ.... และ ร่าง พ.ร.บ.สำนักงานทนายรัฐ แล้ว