"ชัชชาติ"สำรวจแยกลำสาลีจราจรติดขัดเร่งรัดคืนผิวจราจร

2022-05-26 00:10:11

"ชัชชาติ"สำรวจแยกลำสาลีจราจรติดขัดเร่งรัดคืนผิวจราจร

Advertisement

"ชัชชาติ" ชวนว่าที่ ส.ก. สำรวจแยกลำสาลีปัญหาการจราจรติดขัด พบโครงการก่อสร้างคืบหน้าแค่ 5% เร่งรัดคืนผิวจราจรให้ประชาชน 

เมื่อวันที่ 25 พ.ค.65 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์  ว่าที่ผู้ว่าฯกทม. ลงพื้นที่สำรวจแยกลำสาลี เขตบางกะปิ  กทม. เพื่อดูการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีส้ม ร่วมกับ น.ส.มธุรส เบนท์ ว่าที่ ส.ก. เขตสะพานสูง พรรคเพื่อไทย และ นางชญาดา วิภัติภูมิประเทศ ว่าที่ ส.ก. เขตคันนายาว พรรคเพื่อไทย โดยปัญหาหลักในพื้นที่แยกลำสาลีคือมีสภาพการจราจรติดขัดจากการก่อสร้าง เหมือนกับในพื้นที่เขตธนบุรี ที่นายชัชชาติได้เดินทางไปสำรวจปัญหาเมื่อวานนี้ (24 พ.ค.65)

นายชัชชาติ กล่าวว่า ปัญหาในพื้นที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างที่ส่งผลให้การจราจรติดขัด โดยในพื้นที่แยกลำสาลีเองก็เป็นอีกจุดสาหัส เหมือนกับที่เขตธนบุรี ซึ่งในพื้นที่แยกลำสาลีนั้นมีการก่อสร้าง 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม รถไฟฟ้าสายสีเหลือง และโครงการสร้างสะพานข้ามแยกจากลาดพร้าวไปยังสุขาภิบาล 1 ทำให้เกิดปัญหาการคืนพื้นผิวการจราจร ที่ส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัด สำหรับโครงการสร้างสะพานข้ามแยก มีการแบ่งสัญญาเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนต้นเป็นความรับผิดชอบของ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และส่วนปลายเป็นความรับผิดชอบของ กทม. จากสัญญาพบว่าระยะเวลาการก่อสร้าง ผ่านมาแล้วถึงร้อยละ 65 แต่การก่อสร้างเดินหน้าเพียงร้อยละ 5 แสดงว่าความคืบหน้าของโครงการมีปัญหา กทม. ต้องเข้ามาเร่งรัดการก่อสร้าง

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า ส่วนโครงการรถไฟฟ้า 2 สายมีประเด็นเรื่องการออกแบบทางเดิน (สกายวอล์ก) เพื่อเชื่อมต่อการเดินทาง แต่ไม่มีลิฟต์คนพิการ เบื้องต้นเข้าใจว่ามีสาเหตุมากจากงบประมาณที่ไม่เพียงพอ ซึ่งต้องตรวจสอบ และหาวิธีจัดการเพื่อทำให้สามารถอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้มากที่สุด

"สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหา  ประการแรกต้องเร่งรัดการก่อสร้าง จากนั้นต้องเร่งคืนพื้นที่ถนนให้ประชาชน ป้องกันไม่ให้ผู้รับเหมาใช้เป็นพื้นวางอุปกรณ์ก่อสร้าง ส่วนประเด็นการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ผ่อนปรนให้ผู้รับเหมาส่งงานล่าช้า ต้องไปตรวจสอบ หากพบว่าเป็นปัญหา จะแจ้งให้รัฐบาลทราบว่าเงื่อนไขดังกล่าวก่อให้เกิดปัญหากับประชาชน ขอย้ำว่า กทม. ต้องเอาจริงเอาจังในการควบคุมการก่อสร้าง เพื่อไม่ให้สร้างปัญหาต่อประชาชน"นายชัชชาติ กล่าว

นายชัชชาติ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ข้าราชการสังกัด กทม. ให้ความสนใจนโยบายกว่า 200 ข้อ ขณะที่สำนักงานเขตบางแห่งเริ่มนำนโยบายไปพัฒนา ว่ารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่นโยบายได้รับความสนใจ และเห็นความตื่นตัวในการทำงาน ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ยินดีหากมีการเสนอข้อคิดเห็นในการทำงานต่าง ๆ เข้ามา ทั้งนี้ เว็บไซต์ chadchart.com ก็มีผู้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมอย่างสม่ำเสมอ ตนถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเพราะเมืองมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา นโยบายไม่ใช่ศิลาจารึกที่จะคงเดิมตลอด แต่นโยบายต้องเปลี่ยนแปลงไปตามวิถีชีวิตคน และพอมีโจทย์ที่เป็นความต้องการของประชาชนก็ทำให้ข้าราชการมีทิศทางในการทำงาน ขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจ และจะพยายามทำให้สำเร็จได้มากที่สุด

“น่าดีใจมากที่สำนักงานเขตหลายแห่ง นำนโยบายไปพัฒนาแล้ว ทั้ง ๆ ที่ผมยังไม่ทันเข้าทำงานเลย แต่ก็ตื่นตัวกันแล้ว สำหรับผมนี่เป็นมิติใหม่ ผมเชื่อว่าพวกเขาทำได้เกือบหมด พอมีทิศทางทุกคนก็เริ่มตื่นตัว และผมก็ยังดีใจที่วันประกาศผลเลือกตั้ง (อย่างไม่เป็นทางการ) ซึ่งเราก็แนะนำให้ข้าราชการเข้าไปอ่านนโยบาย เผื่อมีข้อติเตียน ข้อแนะนำ จะได้มาคุยกันได้ เขาก็ไปอ่านกัน ผมก็ดีใจ ส่วนนโยบายรายเขตเขาก็ไปดูว่ามันเกี่ยวข้องกับเขาอย่างไรบ้าง มันไม่ได้ยากเลยที่จะทำ ผมว่ามันสนุก และเป็นมิติใหม่ที่เราไม่เคยเห็น” นายชัชชาติ กล่าว

นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า ได้รับโทรศัพท์แสดงความยินดีจาก น.ส.รสนา โตสิตระกูล เมื่อวานนี้ (24 พ.ค.65 )  ตนเคารพ น.ส.รสนาเหมือนญาติผู้ใหญ่ ยินดีเป็นอย่างยิ่งหากได้รับคำแนะนำหรือข้อคิดเห็นด้านนโยบาย สำหรับประเด็นระหว่างการหาเสียง ไม่รู้สึกไม่ติดใจอะไร เพราะเคารพสิทธิของทุกคนในการแสดงออก ทั้งนี้ น.ส.รสนาให้พิจารณาเรื่องการต่อสัมปทานรถไฟฟ้าเป็นพิเศษ ซึ่งมีจุดยืนเดียวกัน นั่นคือ ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง สามารถพูดคุยกันได้ด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร