"อนุพงษ์" ฉุน ส.ว. ตั้งกระทู้ถามทั่วไปไม่ตรงกับที่ยื่นเอกสารไว้

2022-05-23 13:58:12

 "อนุพงษ์" ฉุน ส.ว. ตั้งกระทู้ถามทั่วไปไม่ตรงกับที่ยื่นเอกสารไว้

Advertisement

"อนุพงษ์" ฉุน ส.ว. ตั้งกระทู้ถามทั่วไปปมความปลอดภัยทางถนนไม่ตรงกับที่ยื่นเอกสารไว้ ไล่ไปตั้งกระทู้สด

เมื่อเวลา 09.30น. วันที่ 23 พ.ค. 65 ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา โดยมีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภาคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ทั้งนี้ภายหลังรับทราบพระบรมราชโองการประกาศพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ.2565 แล้ว นายศุภชัย ได้แจ้งถึงจำนวน ส.ว.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ว่า มีจำนวน 249 คน เนื่องจากนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ ขอลาออกจากตำแหน่ง ส.ว.

จากนั้นเป็นการพิจารณากระทู้ถามทั่วไป ที่นายทวีวงษ์ จุลกมนตรี ส.ว. ถามนายกรัฐมนตรี เรื่องมาตรการในการสร้างความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน จากประเด็นที่สังคมวิจารณ์ต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนน โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้รับมอบหมายมาชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการตอบคำถาม พล.อ.อนุพงษ์ ได้ทักท้วงด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ ว่า ปกติการถามเป็นกระทู้สด และกระทู้ทั่วไป ที่กำหนด แต่ไม่ได้ถามตามที่ส่ง ซึ่งผมตอบคำถามได้ แต่ไม่ได้ถามตามที่ส่ง สำหรับที่เป็นข้อกล่าวที่สาธยาย หากผมไม่พูดจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด ดังนั้นเรียนให้ไปตั้งกระทู้สด แต่หากถามกระทู้ทั่วไปแล้วสาธยายไม่ตรงกับที่ถามนั้น กรุณาพิจารณาด้วย ในนี้มีหลายเรื่องข้อกล่าวหา ข้อกล่าวอ้าง ขอยึดตามที่ถามในหนังสือ ไม่เช่นนั้นกลับไปถามกระทู้ถามสดใหม่

จากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ได้ชี้แจงว่า ภาพรวมการใช้รถใช้ถนนที่เป็นปัญหาอุบัติเหตุที่สร้างความสูญเสียมากกว่าการตายจากโควิด-19 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนไทยขับรถไม่ดีทุกวัน หรือตลอดทั้งปี ขาดวินัย ดังนั้นในประเด็นแก้ไขต้องบังคับใช้กฎหมายให้เคร่งครัด อย่างไรก็ดียอมรับว่าการดูแลการบังคับใช้กฎหมายไม่สามารถให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร หรือตำรวจเฝ้าตามทางม้าลายทั่วกรุงเทพได้ ดังนั้นในการแก้ปัญหาของรัฐบาลคือการปรับปรุงกฎหมายตามข้อเสนอแนะของคณะทำงานที่ศึกษาวิเคราะห์ ส่งให้รัฐบาล ข้อเสนอที่ให้ตั้งศูนย์ทำงานกลาง ผมมองว่าเป็นไปได้ยาก เพราะต้องรวมหลายหน่วยงาน ทั้ง ในกลไกแก้ปัญหาของรัฐบาล มีการทำงานของหน่วยงานราชการและคณะทำงานที่ศึกษาปัญหา วิเคราะห์ข้อมูลและเสนอแนะมายังรัฐบาลเพื่อดำเนินการ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลได้ทำและมีความคืบหน้ามาก อย่างไรก็ดีตามกฎหมายลงโทษผู้ที่มึนเมา มีบทลงโทษแรงถึงติดคุก แต่การนำไปสู่การลงโทษติดคุกได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการทำคดีด้วย