"ทนายตั้ม" เปิดเบื้องลึกเกมคมเฉือนคมพา "ลุงพล" ไปมอบตัวที่ สตช.
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ทนายความของนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล ผู้ต้องหาในคดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ ได้ไลฟ์ผ่านช่องยูทูบ ทนายตั้มษิทรา ว่า คดีนี้กระแสข่าวเหมือนจะออกหมายจับลุงพลมาตั้งนานแล้ว จนคดีนี้ครบรอบ 1 ปี คือ คดีนี้มีการวางไว้แล้วว่าจะต้องหาคนผิดให้ได้ ตำรวจก็มุ่งไปที่ลุงพล เอาพยานหลักฐานต่าง ๆ มุ่งไปที่ลุงพล ผิดหลักการสอบสวน คือ ผมจะบอกว่าตำรวจไม่เป็นกลางยังไงเรื่องนี้ เพราะในศาลแม่ของน้องชมพู่ รับสารภาพกับผมในศาลแล้วครับ ว่าที่ทำมาทั้งหมด คำร้องอะไรต่าง ๆ ตำรวจแนะนำนะครับ มีเป็นคำให้การ คำเบิกความอยู่ พอตำรวจมุ่งว่าจะดำเนินคดีให้ได้ ทางพนักงานสอบสวนเขาเป็นผู้น้อย เขาก็ต้องทำตามทางผู้ใหญ่ คดีนี้ไม่ใช่การปิดคดี การออกหมายจับมันเริ่มต้นเท่านั้นเอง
ทนายตั้ม กล่าวต่อว่า การไปมอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพราะ ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนทั่วประเทศ ไม่ใช่เรื่องผิดแปลก ผมก็บอกลุงพลไปที่ สตช. โดยประสานท่านโฆษก ตร. แต่ก็มีการบอกให้ไปมอบตัวที่ สน.ปทุมวัน ก็เลยมีเกมคมเฉือนคมไปมอบตัวที่ สตช. เอาลุงพลเข้าไปให้ได้ เพราะไม่อยากโดนจับนอกโรงพัก หรือ นอก สตช. ผมก็นั่งรถกระบะเข้าไป ผมบอกให้ลุงพลเข้าไป สตช.พอ แต่ผิดคิวแกเข้าประตูข้าง ไปห้องโถงหา ผบ.ตร.เลย ซึ่งก็ดีเพราะเรามีเจตนามอบตัว ผมบอกไม่ต้องใส่กุญแจมือเพราะมามอบตัว แต่มีการโชว์พาวใส่กุญแจมือ คงจะคิดว่าอยู่ในอำนาจตัวเอง แต่อย่าทำเกินพอดี นั่นคือ บ้านของพวกคุณจะมาจับอะไร จากนั้นก็พาไป สน.ปทุมวัน และนั่ง ฮ.ไป จ.มุกดาหาร มีการสอบปากคำ ทั้งนี้ผมจะไปร้องศาลเรื่องละเมิดอำนาจศาล และปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ตอนที่มีการสอบปากคำลุงพล ผมก็บอกไปว่าลุงพลให้การหลายรอบแล้ว ก็ยืนยันคำให้การเดิมไม่ต้องมาสอบซ้ำ แต่ตำรวจก็ยังถามอยู่ แต่ 2-3 คำถามหลังมันซ้ำ ก็แจ้งไปว่ามันซ้ำ พนักงานสอบสวนก็บอกทนายหยุดเขาบอกเขาถามผู้ต้องหา ผมก็เลยบอกว่า ในฐานะทนายความลุงพลขอให้การในชั้นศาล คือ ตำรวจมีสิทธิแต่ขออย่าซ้ำ หรือมีพิธีรีตรองอะไรอีก
"วันไปศาลนักข่าวก็รออยู่แล้ว ไปยื่นคำร้องขอประกันตัว ตำรวจ แม่น้องชมพู่ คัดค้านการประกันตัว โดยยื่นพยาน 5 ปาก ซึ่งลุงพลไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ไม่มีพฤติกรรมไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐาน รอจนถึงเที่ยง ศาลไม่มีคำสั่งมา ผมก็ขอป้าแต๋นออกไปกินข้าว ศาลก็โทรมาบอกให้มาที่ศาลด่วน และวันนั้นผมก็ขอศาลท่านขอถามแม่น้องชมพู่ด้วย ผมก็ถามแม่น้องชมพู่ แกก็บอกว่า ตำรวจแนะนำให้ทำ แม่น้องชมพู่ก็ให้การว่ากลัวลุงพลจะทำร้าย แต่ผมก็ซักค้านว่าที่ผ่านมาลุงพลไม่เคยไปยุ่งกับแม่เลย เป็นความกลัวไปเอง และมีพยานอีกคนมาเบิกความว่า ลุงพลเคยข่มขู่จะทำร้ายเขา ผมก็ถามว่าข่มขู่ยังไง สรุปว่า ลุงพลแค่ทำท่าทางเท่านั้น แต่ลุงพลไม่เคยขู่ ไม่เคยทำร้ายเขาเลย ทั้งนี้ขอบคุณศาลยุติธรรมมาก ถ้ามีการสืบพยานผมถามมากกว่านี้ ผมเคยถามตำรวจที่สมุทรสาครฉี่แตกเลยนะครับ หลังจากนั้นลุงพลก็ได้อิสรภาพ ผมอยากให้เรื่องนี้เป็นแบบอย่าง ผมได้ประสานท่านสิระ เจนจาคะ ท่านอยากให้เรื่องนี้เข้าสู่ กมธ.จะได้ตรวจสอบว่าทำไม่ถูกต้องอย่างไร เพราะการไปมอบตัวแล้วมีการถูกจับใส่กุญแจมือ ซึ่งจะมีการดำเนินคดีตามมา ผมอยากให้เป็นบรรทัดฐานเพื่อคุ้มครองสิทธิผู้ต้องหาในอนาคต"ทนายตั้ม กล่าว
ขอบคุณยูทูบ ทนายตั้มษิทรา
