×ข่าวรายการผังรายการรายการสด ร่วมงานกับเราติดต่อเรา

รวบแล้ว! ผัวโหด ฆ่าเมียสาวใหญ่คาราโอเกะหมกพงหญ้า คุมตัวทำแผน

รวบแล้ว! ผัวโหด ฆ่าเมียสาวใหญ่คาราโอเกะหมกพงหญ้า  คุมตัวทำแผน
2020-11-29 18:10:22

ตร.รวบตัวผัวโหดฆ่าเมียสาวใหญ่ร้านคาราโอเกะหมดพงหญ้าข้างทางใน อ.จะนะ พบมาจากความหึงหวงกลัวมีชายอื่น และบันดาลโทสะระหว่างทางกลับบ้านใช้มีดปาดคอ แทงหัว และลำตัวอีกหลายครั้งด้วยความบ้าคลั่ง ก่อนที่จะกลับบ้านทำตัวเป็นปกติ กระทั่งมีคนพบศพจนกลายเป็นข่าวดัง จึงคิดหนีออกนอกพื้นที่ไปยัง จ.บึงกาฬ แต่ถูกตามรวบได้ระหว่างทางที่ จ.ชุมพร

ความคืบหน้าคดีพบศพ น.ส.มาลี สามา อายุ 50 ปี สาวใหญ่พนักงานร้านคาราโอเกะใน อ.นาทวี จ.สงขลา ถูกฆ่าหมกพงหญ้าริมถนนสายคูศักดิ์สิทธิ์-อ่าวนาว พื้นที่ หมู่ 5 ต.คู อ.จะนะ และพบศพเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 26 พ.ย. 63 ที่ผ่านมา โดยคาดว่า เป็นฝีมือของ นายชลิต อายุ 50 ปี สามี ที่ไปรับออกจากร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.4 ต.นาทวี อ.นาทวี เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งตำรวจกำลังอยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวนนั้น

ล่าสุดวันที่ 29 พ.ย. ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายชลิต สามี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ได้แล้ว หลังใช้เวลาสืบสวนแกะรอยอยู่ราว 2 วัน โดยทางเจ้าหน้าที่ 3 หน่วย ทั้งชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ชุดสืบสวนคดีความมั่นคง ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา และ ชุดสืบสวน สภ.จะนะ นำโดย พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.จะนะ และ พ.ต.ท.วีระศักดิ์ เดชประมวล รอง ผกก.สส.สภ.จะนะ ได้แกะรอย และสามารถติดตามจับกุมได้ในพื้นที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร เมื่อช่วงประมาณ 4 โมงเย็น วานนี้ ขณะนั่งรถตู้เดินทางออกจาก อ.เมือง จ.สงขลา ปลายทาง จ.บึงกาฬ ก่อนที่จะควบคุมตัวกลับมายัง สภ.จะนะ พื้นที่เกิดเหตุ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และทำการสอบสวน




จากการสอบสวน นายชลิต ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยให้การสั้นๆเพียงว่า ทำไป เพราะ บันดาลโทสะ รวมทั้งความหึงหวงผู้ตายที่เป็นพนักงานร้านคาราโอเกะ ชอบหายไปนานหลายๆวัน ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน และหึงหวงกลัวว่า จะชายอื่นมาติดพัน จึงคิดที่จะพาทางแก้

โดยในเกิดเหตุเมื่อช่วงดึกวันวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา ได้ขับรถจักรยานยนต์ไปที่ร้านคาราโอเกะดังกล่าว และดื่มกินกับผู้ตาย ก่อนที่จะพาผู้ตายกลับบ้านพักด้วยกันในพื้นที่ ม.10 ต.น้ำขาว อ.จะนะ แต่ระหว่างทางก่อนถึงบ้านนั้น กำลังจะแวะไปยังบ้านของหมอผีหรือหมอไสยศาสตร์ ที่อยู่ใกล้กัน เพื่อให้ผู้ตายกินน้ำมนต์ และทำพิธีทางไสยศาสตร์ เพื่อความสบายใจ และให้ผู้ตายรักหลงตน ไม่นอกใจ กลับมาอยู่กินกับตนเหมือนเดิม

แต่ปรากฏว่า ก่อนถึงบ้านหมอผีราว 2 กิโลเมตร ตรงจุดเกิดเหตุที่พบศพ ทั้งคู่ได้เกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน และผู้ตายได้คว้ามือซ้ายของ นายชลิต มากัดถูกเข้าที่หัวแม่มือ จึงเกิดการใช้กำลังกันขึ้น และ นายชลิต ได้ใช้มีดพกที่ติดตัวมาด้วยปาดคอผู้ตาย 1 ครั้ง แล้วแทงเข้าที่หัวอีก 1 ครั้ง หลังจากนั้นได้กระหน่ำแทงตามร่างกายอีกหลายแผลด้วยความบันดาลโทสะ



ก่อนที่จะทิ้งศพไว้ในพงหญ้าข้างทาง แล้วขับรถพามีดไปทิ้งในลำคลองบ้านต้นไทร ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 1 กิโลเมตร และขับรถกลับบ้านพักในพื้นที่ ม.10 ต.น้ำขาว ที่ห่างออกไปราว 10 กิโลเมตร พร้อมกับนำกระเป๋าสะพายของผู้ตายไปเผา และนำเสื้อผ้าของตนเองที่เปื้อนเลือดไปซัก และอยู่บ้านทำตัวเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

กระทั่งหลังจากนั้นเมื่อมีชาวบ้านไปพบศพ และกลายเป็นข่าวดังเมื่อช่วงวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา จึงตัดสินใจเดินทางออกนอกพื้นที่ โดยหนีไปกบดานอยู่ที่บ้านเพื่อนในพื้นที่ อ.เมืองสงขลา อยู่ 2 วัน และวานนี้ ในช่วงเช้า จึงตัดสินใจขึ้นรถตู้ออกจาก จ.สงขลา เพื่อเดินทางหลบหนีไปหาเพื่อนอีกคนที่ จ.บึงกาฬ เพื่อกบดานต่อที่นั่น แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่สืบทราบ และตามมารวบตัวได้ในสุด ขณะกำลังลงจากรถตู้ที่ จ.ชุมพร

ทั้งนี้หลังการสอบสวนแล้วเสร็จ ทางตำรวจได้พา นายชลิต ผู้ต้องหาไปชี้จุด และทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิด ทั้งในจุดที่พงหญ้าข้างทางในพื้นที่ ม.5 ต.คู พร้อมกับให้จุดธูปขอขมาศพ ซึ่ง นายชลิต ได้ขมาผู้ตาย พร้อมกับก้มลงกราบ และน้ำตาซึม และไม่ยอมพูดอะไร ก่อนที่จะพาต่อไปยังคลองบ้านต้นไทร ที่เป็นจุดโยนมีดพกลงคลอง และไปที่บ้านพักในพื้นที่ ม.10 ต.น้ำขาว ซึ่งข้างบ้านพบจุดที่ใช้จุดไฟเผากระเป๋าสะพายของผู้ตาย และยึดเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในวันเกิดเหตุ เบื้องต้นได้แจ้ง 2 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ ปิดบังซ้อนเร้นศพ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.จะนะ ดำเนินคดีต่อไป