หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบ จ.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5ลุยล่อซื้อยาเพิ่มขนาดหน้าอก รักษาสิว เผยเป็นยาชนิดเดียวกับยาคุมกำเนิด หากทานเยอะอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 ธ.ค.2560 นายอิศรา นานาวิชิต ตำแหน่งเภสัชกรเชี่ยวชาญ หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกองร้อยรักษาความสงบที่ 3 พันพัฒนา 3 กองกำลังรักษาความสงบ จ.เชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ทำการบุกเข้าตรวจค้นยังบ้านเลขที่ 80/6 หมู่ที่ 3 ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ หลังสืบทราบว่าได้มีการลักลอบขายยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดฮอร์โมนผ่านทางเฟซบุ๊ก โดยมีการโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณในการเพิ่มขนาดหน้าอก รักษาสิว ทำให้มีหน้าใสและรูปร่างที่ดี โดยจากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนางสาวธนิดา พวงมาลัย อายุ 24 ปี ที่อยู่ 28 หมู่ที่ 8 ตำบลสันทราย อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลาง ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดฮอร์โมน บรรจุอยู่ในกล่องรวม จำนวนประมาณเกือบ 80,000 เม็ด คิดเป็นมูลค่าเกือบ 700,000 บาท
โดยการจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบทราบมาว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กประกาศขายยาโดยโอ้อวดสรรพคุณในการเพิ่มขนาดหน้าอก รักษาสิว ทำให้มีหน้าใสและรูปร่างที่ดี นอกจากนี้ยังได้มีการเปิดรับตัวแทนจำหน่ายภายในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบว่ายาดังกล่าวนั้น เป็นยาซึ่งจัดอยู่ในประเภทยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดฮอร์โมน ซึ่งเป็นยาที่มีอันตราย และต้องจำหน่ายโดยเภสัชกรผู้มีความรู้เท่านั้น ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสนธิกำลังกันวางแผนทำการติดต่อขอซื้อยาดังกล่าวจากทาง นางสาวธนิดา ผู้ต้องหา และได้มีการนัดหมายไปรับยาที่จำหน่ายที่บ้านหลังดังกล่าว เมื่อถึงเวลานัดหมายทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งสายลับเข้าไปทำการติดต่อเพื่อซื้อยา จากนั้นจึงได้แสดงตัวขอดำเนินการตรวจค้น โดยจากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบของกลางยาชนิดดังกล่าวอยู่ภายในบ้าน ยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดฮอร์โมน บรรจุอยู่ในกล่องรวมกว่าสี่พันกล่อง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง เพื่อทำการสอบสวน ขยายผลเพื่อดำเนินคดีต่อไป
โดยทางด้านนายอิศรา นานาวิชิต ตำแหน่งเภสัชกรเชี่ยวชาญ หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข เปิดเผยว่า ยาดังกล่าว เป็นยาชนิดเดียวกับยาคุมกำเนิดชนิดเม็ดฮอร์โมน ใช้รับประทานในการปรับระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยทางการแพทย์ จะจัดจำหน่ายในราคาแผงละ 30 บาทเท่านั้น แต่จากการตรวจสอบพบว่าในโลกอินเทอร์เน็ต กลับนำยาดังกล่าวมาทำแพ็กเกจใหม่ และจำหน่ายในราคาสูงถึง 180 บาท ซึ่งยาดังกล่าวนั้นเป็นยาที่จะต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากผู้ใช้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้และได้รับอันตรายต่อสุขภาพ จนอาจจะทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอย หน้าเป็นฝ้า ประจำเดือนขาด ในยาคุมบางชนิดอาจนำไปสู่การเพิ่มโอกาสเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านม มะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์และภาวะหลอดเลือดอุดตัน หรือบางรายอาจจะทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ ทั้งนี้ ในการจับกุมในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเอาผิดกับผู้ต้องหาในข้อหา จำหน่ายยาอันตรายตาม พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 ที่ห้ามขายนอกสถานที่ที่ได้รับอนุญาต, ขายยาชนิดดังกล่าวผ่านอินเทอร์เน็ต โดยไม่ได้รับอนุญาต มีความผิดตามมาตรา 12 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท นอกจากนี้ ยังผิดฐานโฆษณา พ.ร.บ.ยา เนื่องจากยาอันตรายห้ามให้มีการโฆษณาโอ้อวดสรรพคุณ ผิดตามมาตรา 88 มีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท
ทั้งนี้ อยากฝากเตือนไปยังประชาชน ให้ระมัดระวังในการซื้อผลิตภัณฑ์สุขภาพนจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งผู้บริโภคมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลิตภัณฑ์ไม่มีคุณภาพมาตรฐานและมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นหากต้องการซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์สุขภาพควรเลือกซื้อในสถานที่ที่ได้รับอนุญาตถูกต้องและได้รับคำแนะนำการใช้โดยแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อสามารถรับรู้ว่ายาแต่ละชนิดมีที่มาอย่างไร รวมไปถึงโทษและผลข้างเคียงของตัวยาชนิดนั้นๆ เพราะถ้าหากใช้ยาผิดประเภท หรือปริมาณที่มากเกินควรอาจส่งผลทำให้เกิดอาการแพ้และได้รับอันตรายต่อสุขภาพจนอาจจะถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้
