ผู้ว่าฯ เพชรบุรี นำทีมจิตอาสาทำความสะอาดวัดใหญ่ฯ พร้อมเน้นการฟื้นฟูเยียวยาหลังน้ำลด และเร่งให้ทุกอำเภอสำรวจความเสียหาย
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 พ.ย.2560 นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผวจ.เพชรบุรี พร้อมคณะและประชาชนจิตอาสา กว่า 60 คน ร่วมกันทำความสะอาดโบราณสถานภายในวัดใหญ่สุวรรณาราม ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโบราณสถานกับกรมศิลปากร หลังระดับน้ำในแม่น้ำเพชรลดลงต่ำกว่าตลิ่ง โดยมี พระครูวัชรสุวรรณาทร เจ้าอาวาสวัดใหญ่สุวรรณาราม เจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี และคณะสงฆ์ร่วมทำความสะอาดในครั้งนี้ด้วย โดยทางหน่วยงานที่รับผิดชอบ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารภัย จ.เพชรบุรี ได้ประสานขอเครื่องสูบน้ำจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ และเขต 2 สุพรรณบุรี ดำเนินการสูบน้ำท่วมขังออกจากภายในวัดตั้งแต่วานนี้
สำหรับวัดใหญ่สุวรรณารามเป็นโบราณสถานแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีที่ถูกน้ำท่วม ทั้งพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอระฆัง ระดับน้ำสูงประมาณ 80 เซนติเมตร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำล้างทำความสะอาด กวาดขยะ และขัดล้างพื้นทางเดินรอบพระอุโบสถ พื้นกระเบื้องดินเผาใต้ศาลาการเปรียญ และพื้นทางเดินรอบวัด ทั้งนี้ทางจังหวัดเพชรบุรียังร่วมกับอำเภอเมืองเพชรบุรีและประชาชนจิตอาสาร่วมทำความสะอาดวัดอีกหลายแห่ง เช่น วัดคงคาราม วัดสระบัว เป็นต้น
นางฉัตรพร ราษฎรดุษดี ผวจ.เพชรบุรี กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายลงแล้ว คงเหลือบางพื้นที่ในอำเภอเมืองและอำเภอบ้านแหลม แต่ส่วนใหญ่เป็นน้ำท่วมในทุ่งนา รวมถึงยังมีที่ซึ่งน้ำเพิ่งเข้าไป เช่น แถว ม.13 ต.บ้านกุ่ม ม.5/6/7 ต.ธงชัย ต.บางจาก ที่ยังมีน้ำท่วมอยู่บ้างแต่ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำท่วมไร่นา โดยได้มีการนำเครื่องสูบน้ำไปช่วยในพื้นที่แล้ว ต่อจากนี้จังหวัดเพชรบุรีจะเข้าสู่ภาวะการฟื้นฟูเยียวยา การสำรวจความเสียหาย การซ่อมแซมพื้นที่สาธารณะ การช่วยเหลือประชาชน การแก้ไขน้ำเสียด้วย EM บอล การกำจัดยุง การให้ความรู้เกี่ยวกับโรคจากน้ำท่วม การสร้างขวัญกำลังใจ เป็นต้น ในส่วนของการป้องกันน้ำท่วมในระยะยาวนั้น ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายรวมทั้งประชาชนด้วย โดยเพชรบุรีได้รับงบประมาณมาบางส่วนในการทำคลองที่ทั้งใช้ระบายน้ำและเก็บกักน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง ซึ่งเมื่อทำเสร็จก็จะช่วยลดผลกระทบได้มาก
สำหรับความเสียหายเบื้องต้นสถานการณ์น้ำท่วม จ.เพชรบุรีจนถึงวันที่ 26 พ.ย.60 ที่ผ่านมา ตั้งแต่อำเภอเมืองถึงปลายแม่น้ำเพชรบุรีได้รับผลกระทบใน 8 อำเภอ 1 เทศบาล 47 ตำบล 285 หมู่บ้าน 8,069 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตร 62,800 ไร่ ส่งผลทำให้น้ำฝนสะสมล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนราษฎรสองฝั่งแม่น้ำเพชรบุรี พื้นที่ลุ่มต่ำ พื้นที่ทำการเกษตรตลอดจนเส้นทางคมนาคมในจังหวัดเพชรบุรีได้รับความเสียหาย