หมอจุฬาฯพิชิตรางวัลนิวตันคนแรกของไทยคว้าเงิน 8.6 ล้าน

2017-11-22 23:05:51

หมอจุฬาฯพิชิตรางวัลนิวตันคนแรกของไทยคว้าเงิน 8.6 ล้าน

Advertisement

แพทย์จุฬาฯ คว้าเงินรางวัล 8.6 ล้านบาท หลังคว้ารางวัลชนะเลิศจากกองทุนนิวตันเป็นคนแรกของไทย ด้วยผลงานการสร้างเครือข่ายและพัฒนาเครื่องมือวินิจฉัยกลุ่มโรคหายากในเด็ก ขณะที่รางวัลพิเศษชนะใจประธานกรรมการตัดสินตกเป็นของนักวิจัย สกว. จากไบโอเทค ผู้ก่อตั้งเครือข่ายวิจัยเพื่อสุขภาพกุ้ง

เมื่อวันที่ 22 พ.ย. สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย จัดงานมอบรางวัลนิวตัน (Newton Prize) ประจำปี 2560 ชิงเงินรางวัลมูลค่า 200,000 ปอนด์ (หรือ 8.6 ล้านบาท) เพื่อมอบให้แก่โครงการที่ได้รับหรือเคยได้รับทุนนิวตัน ซึ่งดำเนินงานยอดเยี่ยมในด้านการวิจัยหรือนวัตกรรมที่สนับสนุนการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสวัสดิภาพสังคมของประเทศที่ร่วมทุน ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย โดยมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี, มร.มาร์ค ฟิลด์ รมช.ต่างประเทศอังกฤษ รับผิดชอบกิจการเอเชียแปซิฟิก และ มร.ไบรอัน เดวิดสัน อัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เป็นผู้มอบโล่รางวัลและประกาศนียบัตรให้แก่คณะวิจัยไทย


สำหรับรางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ศ.นพ.วรศักดิ์ โชติเลอศักดิ์ เมธีวิจัยอาวุโส สกว. สังกัดศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านเวชพันธุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งศึกษากลุ่มโรคหายากแต่พบบ่อยในเด็ก ภายใต้การสนับสนุนทุนจากสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)
โดย ศ.นพ.วรศักดิ์ระบุว่าปัจจุบันกลุ่มโรคหายากในเด็กมีประมาณร้อยละ 8 ของประชากรไทยทั้งหมด นั่นคือมากกว่า 5 ล้านคน แต่แพทย์ยังมีประสบการณ์ในการวินิจฉัยและรักษาน้อย บางโรคต้องใช้เวลานานถึง 7 ปี ทำให้อาการของโรคมีความรุนแรงขึ้นจนเด็กจำนวนมากเสียชีวิตหรือพิการ ดังนั้นจึงต้องหาทางวินิจฉัยโรคให้เร็วและทันเวลามากที่สุดเพื่อหาแนวทางการรักษาต่อไป เด็กส่วนใหญ่ที่ป่วยด้วยโรคหายากจะมีอาการของโรคที่หลากหลาย เช่น เลือดเป็นกรดหรือด่าง ซึมลง พัฒนาการช้า พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง ตามองไม่เห็น หูไม่ได้ยิน ปากแหว่ง ไม่มีแขนขา เป็นต้น ซึ่งคณะวิจัยได้ร่วมกับเครือข่ายของประเทศอังกฤษพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เครื่องมือและเทคโนโลยีเพื่อวินิจฉัยโรคจากเลือดของผู้ป่วย หาลำดับสารพันธุกรรม โปรแกรมการวิเคราะห์ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ก็ทราบว่าเป็นโรคใด รวมถึงสร้างทีมสร้างคนอย่างรวดเร็ว วางระบบและเครือข่ายตั้งแต่เหนือจรดใต้ของประเทศในการส่งตัวผู้ป่วยหรือเลือดมาวินิจฉัยโรค เมื่อทราบว่าเป็นโรคใดก็จะค้นหากลไกลการเกิดโรค และวิธีการรักษาโรคที่ตรงกับสาเหตุต่อไป




“เรายอมรับว่าหลายครั้งก็ไม่สามารถทำให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้นได้ เพียงแต่ทราบว่าป่วยเป็นโรคใด เพราะเป็นโรคที่หายากมาก บางโรคไม่เคยมีรายงานมาก่อนในประเทศไทย แต่อย่างน้อยเราก็เข้าใจและค้นพบหลักการการเกิดโรคใหม่ ๆ และในภาพรวมจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ นอกจากจะเป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแล้วยังเป็นงานที่ลงไปถึงรากของปัญหา ไม่ใช่แค่เยียวยาอย่างเดียว การดูแลรักษาผู้ป่วยต้องได้มาตรฐานโลก และสร้างมาตรฐานที่ดีที่สุด” ศ. นพ.วรศักดิ์ระบุ

นอกจากรางวัลชนะเลิศแล้วยังมีรางวัลพิเศษจากประธานกรรมการตัดสิน “Chairperson Award” มอบแก่ ดร.กัลยาณ์ ศรีธัญญลักษณา-แดงติ๊บ หัวหน้าห้องปฏิบัติการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกุ้งและเชื้อก่อโรค สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ภายใต้ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีแห่งชาติ (ไบโอเทค) กับผลงานการจัดตั้ง “เครือข่ายวิจัยเพื่อสุขภาพกุ้ง” (INSH: International Networks for Shrimp Health) ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนจาก Newton Institutional Links และ Researcher Links ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง สกว. และบริติชเคาน์ซิล


ศูนย์ INSH เชื่อมโยงการทำงานระหว่างห้องปฏิบัติการวิจัยด้านโรคกุ้งและสุขภาพกุ้งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมทั้งจากภาครัฐและเอกชน เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขและการเฝ้าระวังโรคระบาดในกุ้งอย่างบูรณาการ เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่กระจายของโรคอุบัติใหม่ต่าง ๆ ตลอดจนปัญหาด้านสุขภาพกุ้งที่จะเกิดขึ้นอย่างทันท่วงที
ขณะที่รางวัลรองชนะเลิศอีกจำนวน 3 รางวัล ได้แก่1. การศึกษากระบวนการติดเชื้อแบคทีเรียก่อโรคไข้รากสาดไรอ่อนในคน: งานวิจัยพื้นฐานด้วยเทคนิคเชิงระบบสู่การค้นหาวิธีรักษาโรคอย่างแม่นยำ โดย ดร.สมพลนาท สัมปัตตะวนิช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล 2. พันธุ์ข้าวที่ทนกับสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง โดย รศ. ดร.อภิชาติ วรรณวิจิตร ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน 3. การแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อด้วยเทคโนโลยีจีโนม โดย ผศ. ดร.ประพัฒน์ สุริยผล หน่วยชีวสารสนเทศและจัดการข้อมูลวิจัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล