เกิดเหตุเหยียบกันตายในโมร็อกโก หลังประชาชนแย่งอาหารที่เศรษฐีใจบุญนำมาแจก มีผู้เสียชีวิต 15 ราย
cr.Shorouk News
กระทรวงมหาดไทยโมร็อกโก แถลงว่า เกิดเหตุเหยียบกันตายในเมืองซีดี บูลาลัม เมืองเล็ก ๆ ชายฝั่งทะเล ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโมร็อกโกเมื่อวานนี้ (อาทิตย์) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ราย และบาดเจ็บอีก 40 คน ขณะมีเศรษฐีใจบุญคนหนึ่งนำอาหารมาแจกในตลาดแห่งหนึ่งในเมืองดังกล่าว แหล่งข่าวโรงพยาบาล ระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 18 ราย และเพิ่มเติมว่า เหยื่อส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ที่เข้าไปแย่งชิงอาหาร
สื่อท้องถิ่นคนหนึ่งรายงานว่า ผู้บริจาคคนดังกล่าวเคยบริจาคอาหารมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่ในปีนี้ มีประชาชนประมาณ 1,000 คน มารับแจก จนเกิดความโกลาหล ผู้หญิงหลายคนถูกเหยียบ
กระทรวงมหาดไทยระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า กษัตริย์ โมฮัมเหม็ด ของโมร็อกโก สั่งให้ความช่วยเหลือครอบครัวของเหยื่อ และดูแลค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล และแถลงเพิ่มเติมให้เปิดการสอบสวนคดีอาญาด้วย
เมื่อเดือนที่แล้ว กษัตริย์โมฮัมเหม็ด ทรงปลดรัฐมนตรีศึกษาธิการ, การวางแผนและการเคหะและสาธารณสุข หลังสำนักงานเศรษฐกิจ พบความไม่สมดุลในการสนับสนุนแผนการพัฒนา เพื่อแก้ปัญหาความยากจนในภูมิภาค รีฟ ภาคเหนือของประเทศ
ทั้งนี้ ภูมิภาครีฟ เกิดการประท้วงหลายครั้งหลังชาวประมงคนหนึ่ง เสียชีวิตโดยอุบัติเหตุในรถเก็บขยะในเดือนตุลาคม 2559 หลังเผชิญหน้ากับตำรวจ และกลายเป็นสัญลักษณ์ของผลกระทบจากทุจริตคอร์รัปชั่นและการใช้อำนาจในทางมิชอบของทางการ ต่อมาในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กษัตริย์ทรงอภัยโทษให้ประชาชนหลายสิบคนที่ถูกจับกุมในการประท้วง และกล่าวหาเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจุดชนวนให้ประชาชนไม่พอใจ ด้วยการเดินหน้าโครงการพัฒนาช้าเกินไป