โหดเหี้ยม พบซากพะยูนถูกตัดหัว แล่เนื้อ เหลือแต่หนังกับไส้ ถูกเชือกมัดทิ้งไว้ในป่าโกงกาง ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง
เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา นายชัยพฤกษ์ วีระวงศ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ได้รับแจ้งจากชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่ว่า พบซากพะยูนถูกเชือกมัดไว้ที่ป่าโกงกางในพื้นที่ หมู่ 7 คลองโต๊ะขุน ต.เกาะลิบง อ.กันตัง หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พร้อมกับประสานไปยังเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม (ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษ) และ เจ้าหน้าที่สนับสนุนป้องกันละปราบปราบ (สปป.) ที่ 4 ภาคใต้ ประมาณ 20 นาย นำเรือหางยาวรุดไปตรวจสอบด้วย เบื้องต้นพบเพียงหนังและเครื่องในพะยูนเท่านั้น
นายชัยพฤกษ์ กล่าวว่า มีซากพะยูนมาติดที่ป่าโกงกาง ซากมีลักษณะเหมือนถูกมัดไว้ด้วยเชือกเป็นซากพะยูนไม่ทราบเพศ น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 200 กิโลกรัม ลักษณะของซากมีเฉพาะไส้และหนัง ส่วนของอวัยวะส่วนอื่น คือ ส่วนหัว กระดูกและเนื้อหายไป เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน จุดที่พบคือบริเวณคลองโต๊ะขุน ลักษณะของซากที่พบในครั้งนี้เป็นลักษณะซากที่ผิดปกติ เป็นการจงใจที่จะเอาส่วนหัว โครงกระดูก และเนื้อไป ทิ้งไว้เฉพาะลำไส้และหนัง ซึ่งลักษณะอย่างนี้เป็นเจตนาที่ล่าด้วยเหตุผลใดยังไม่สามารถที่จะบอกได้ แต่เป็นวิธีการที่สกปรก
นายชัยพฤกษ์ กล่าวอีกว่า จากการการบินสำรวจเมื่อปีล่าสุด 2559 พะยูนได้เพิ่มขึ้นตามลำดับ มาเป็น 169-170 ตัว ทุกฝ่ายพยายามรณรงค์ให้มีการอนุรักษ์พะยูน ให้สามารถที่จะขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนมากขึ้น จึงอยากจะวิงวอนว่าการกระทำในลักษณะอย่างนี้ไม่ว่าจะเจตนาด้วยเหตุผลใดก็ตาม ขอให้หยุดเพราะมันเป็นสิ่งเลวร้ายมากสำหรับคนตรังและคนในประเทศเรา ขณะนี้ตนได้รายงานให้อธิบดีกรมอุทยานฯ ทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอธิบดีได้สั่งกำชับให้เร่งดำเนินการโดยเฉียบขาดกับการล่าครั้งนี้ ซึ่งประมาณวันที่ 25 ต.ค.ระดับผู้บังคับบัญชาจะลงมาพื้นที่ จ.ตรัง จะมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับแนวทางความร่วมกันระหว่างภาคราชการและภาคเอกชนในแนวทางการร่วมอนุรักษ์พะยูนต่อไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำซากพะยูนมาขึ้นท่าเทียบเรือหาดยาว หมู่ที่ 6 ต.เกาะลิบง ก่อนนำซากไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้กับ พ.ต.ต.มนตรี ไชยมล สารวัตรเวร (สอบสวน) สภ.กันตัง จากการตรวจสอบในเบื้องต้นเป็นซากพะยูนไม่ทราบเพศ สันนิษฐานว่าเป็นเพศผู้ คนร้ายน่าจะตัดหัวไปเพื่อเอาเขี้ยวไปขายในตลาดมืด รวมทั้งโครงกระดูกทั้งหมด และเนื้อพะยูนบางส่วนถูกชำแหละหายไป คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของมนุษย์ ซึ่งจะได้สืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป