หลับให้สบาย"พลายชมพู"

2017-10-21 23:05:30

หลับให้สบาย"พลายชมพู"

Advertisement

สุดเศร้า "พลายชมพู"ช้างป่าสีดอล้มแล้ว ทีมสัตวแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ 


เมื่อเวลา 20.20 น. วันที่ 21 ต.ค. ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย สถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "พลายชมพู" ได้ล้มตายแล้ว หลังจาก ถูกนำตัวจาก อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก มารักษาแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้

นสพ.ทวีโภค อังควานิช สัตวแพทย์ประจำสถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ ผศ.นสพ.ดร.วีรพงศ์ ตั้งจิตเจริญ สัตวแพทย์จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อม รศ.นสพ.ดร.นิกร ทองทิพย์ สัตวแพทย์จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดย นสพ.ทวีโภค กล่าวว่า เมื่อเวลา 20.20 น. ช้างป่าสีดอได้หมดลมหายใจและหลับอย่างสงบ ซึ่งทีมสัตวแพทย์ได้ลงความเห็นคาดว่าน่าจะเกิดจากอาการบาดเจ็บ





รศ.นสพ.ดร.นิกร กล่าวว่า ช้างป่าสีดอมีอาการเครียดสูงมากโดยเฉพาะเป็นช้างป่าซึ่งจะมีโรคหนึ่งที่กล้ามเนื้อทั้งตัวจะอักเสบจากการเครียดของตัวช้างทำให้กล้ามเนื้อสลายแล้วกลายเป็นสารพิษซึ่งจะวิ่งไปที่ไต จากนั้นก็จะทำให้ไตวาย ซึ่งจากค่าเลือดที่ตรวจค่าไว้ทีมสัตวแพทย์ก็ห่วงในเรื่องนี้ซึ่งก็ได้ดูแลอย่างใกล้ชิดอยู่ตลอดแต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดอาการได้ทุกเมื่อ ซึ่งทีมสัตวแพทย์ได้พยายามรักษาอย่างเต็มที่ในการช่วยชีวิตช้างป่าสีดอเชือกนี้ซึ่งก็ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว



 ผศ.นสพ.ดร.วีรพงศ์ กล่าวว่า ทีมสัตวแพทย์ได้ให้การดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดและเต็มที่ ซึ่งช้างได้เกิดภาวะกล้ามเนื้ออักเสบอย่างรุนแรงเนื่องจากภาวะความเครียด ซึ่งช้างป่าเมื่อนำตัวมารักษาจะมีความเสี่ยงของการเกิดโรคนี้อยู่เป็นพิเศษ ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อแตกสลายทำให้เม็ดสีในกล้ามเนื้อถูกปลดปล่อยมาในกระแสเลือดซึ่งเม็ดสีจะเป็นพิษต่อไตค่อนข้างมากจึงทำให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันดังกล่าว





อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทีมสัตวแพทย์วิ่งกันอลหม่านหลังพลายชมพูอยู่ๆ ก็ล้มลงอย่างสงบ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทางทีมสัตวแพทย์ช่วยกันเปลี่ยนสายคล้องตัวใหม่ เป็นคล้องที่ขาสองข้างและลำตัวและใช้รถแบ็กโฮยกร่างยืนขึ้นและสวนทวารอีกรอบเพื่อทำการถ่ายท้อง และดูเหมือนช้างพลายชมพูจะตอบสนองดีไม่มีอาการน่าเป็นห่วง



จากนั้นทีมสัตวแพทย์ได้ให้ช้างพักผ่อนเพื่อผ่อนคลายก่อนที่จะทำการทดสอบที่รองตัวใหม่ ซึ่งทางทีมมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ประดิษฐ์ขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อจะนำมาทดสอบว่าจะใช้สำหรับพลายชมพูได้หรือไม่ แต่ระหว่างที่ทีมสัตวแพทย์พักรับประทานอาหารและประชุมเพื่อเตรียมการดังกล่าว ปรากฏว่าที่ขมับของพลายชมพูมีน้ำมันไหลออกมา ทีมสัตวแพทย์ได้เข้าไปดู จู่ๆ พลายชมพูก็ล้มลงนอนงวงตกลาดกับพื้นและหยุดหายใจทันที ทีมสัตวแพทย์วิ่งกันอลหม่านเพื่อฉีดยากระตุ้นหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของพลายชมพูไว้ได้และจากไปอย่างสงบ โดยไม่แสดงอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด ท่ามกลางความเสียใจคณะสัตวแพทย์และทีมงานที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันทำการรักษาอย่างเต็มที่แล้ว



อย่างไรก็ตาม จากเบื้องต้นได้รายงานให้ทางอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชทราบแล้ว ซึ่งจากนี้ทีมสัตวแพทย์จะได้ทำการชันสูตรซากเพื่อยืนยันผลตามที่แพทย์ลงความเห็นและทำพิธีทางศาสนาต่อไป

สำหรับประวติ "พลายชมพู" เป็นช้างป่าสีดอ เพศผู้ ถูกน้ำป่าซัดตกลงไปในคลองชมพู ต.ชมพู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก


เวลา 10.30 น. วันที่ 17 ต.ค. เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ได้รับแจ้ง จากชาวบ้าน ให้เข้าช่วยเหลือช้างป่าตัวนี้ แต่ไม่สามารถช่วยขึ้นมาได้ ต้องลอยคอแช่น้ำข้ามคืน เพราะขาหลัง 2 ข้างบาดเจ็บ อีกทั้งทางขึ้นจากคลองลาดชัน





เวลา 13.00 น. วันที่ 18 ต.ค. เจ้าหน้าที่ และชาวบ้านกว่า 100 คนได้ช่วยกันลาก "พลายชมพู" ขึ้นจากคลองชมพู โดยใช้ลวดสลิง ไปคล้องช้าง ใช้รถแบ็กโฮ และกำลังคนช่วยกันลากขึ้นมา ใช้เวลาประมาณ 20 นาที



เวลา 18.00 น. วันที่ 19 ต.ค. เจ้าหน้าที่ได้ใช้รถแบ็กโฮ 2 คันพยุง “พลายชมพู” มาขึ้นรถบรรทุก 10 ล้อเป็นผลสำเร็จ จากนั้นได้ออกเดินทางประมาณ 19.30 น.มุ่งหน้าสู่ สถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ทั้งนี้ ตั้งแต่ออกเดินทางก็เจออุปสรรคสายไฟต่ำ ทำให้ต้องใช้ไม้ยกเป็นระยะ รถบรรทุกทำความเร็วได้ประมาณ 20-40 กม.ต่อ ชม.เท่านั้น



เวลา 05.00 น. วันที่ 20 ต.ค. คณะสัตวแพทย์และรถบรรทุกของสถาบันคชบาลแห่งชาติฯ ได้บรรทุกช้าง"พลายชมพู" ถึง สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง แต่อาการยังน่าห่วง โดย น.สพ.ทวีโภค อังควานิช สัตวแพทย์ประจำ สถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ พร้อมทีมสัตวแพทย์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ร่วมกันตรวจอาการบาดเจ็บด้วยวิธีการอัลตร้าซาวด์ เนื่องจากไม่สามารถเอกซเรย์ได้ พบว่า บริเวณไขสันหลังเหมือนมีเลือดออก ต้องรักษาแบบประคับประคอง โดยพลายชมพูไม่กินน้ำ ต้องให้น้ำเกลือช่วย



วันที่ 21 ต.ค. ตลอดทั้งวัน นสพ.ทวีโภค อังควานิช สัตวแพทย์ประจำสถาบันคชบาลแห่งชาติในพระอุปถัมภ์ฯ พร้อมทีมสัตวแพทย์จากคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสัตวแพทย์จากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ร่วมกันวางแผนรักษา ทำอัลตร้าซาวด์ "พลายชมพู" พบว่าอาการทั่วไปของช้างในวันนี้ยังไม่ค่อยจะกินอาหาร เริ่มกินน้ำบ้างแล้ว การตรวจในวันนี้ทีมสัตวแพทย์ได้นำรถแบ็กโฮทำการยกช่วงขาหลังของตัวช้างและทำการสวนทวาร โดยสัตวแพทย์ได้ใส่ถุงมือล้วงเข้าไปทางทวารหนักของช้างเพื่อล้วงเอาก้อนอุจจาระออกมาซึ่งพบว่ามีลักษณะค่อนข้างแข็งจำนวนหลายก้อน นอกจากนี้ยังได้ใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า กระตุ้นกล้ามเนื้อตั้งแต่บริเวณสันหลังจนถึงโคนหาง เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อขาหลังทั้ง 2 ข้างที่บาดเจ็บ และไม่ให้เซลล์ไขกระดูกสันหลังตาย พร้อมให้น้ำเกลือ และยาลดการอักเสบ แต่ท้ายที่สุดไม่สามารถยื้อชีวิตพลายชมพูได้