ความทรงจำถึง "วีอาร์009" พระสุรเสียงช่วยชีวิตปชช.ทุกข์ยาก

2017-10-01 11:00:47

ความทรงจำถึง "วีอาร์009" พระสุรเสียงช่วยชีวิตปชช.ทุกข์ยาก

Advertisement


พ.ศ. 2539  
เกิดเหตุวาตภัยครั้งใหญ่ ซึ่งยังผลให้เกิดความเสียหายในหลายพื้นที่ของ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ขณะที่การดำเนินความช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก ด้วยถนนหลายสายถูกตัดขาด ทั้งการติดต่อสื่อสารยังเต็มไปด้วยอุปสรรคปัญหาจากสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ นานนับชั่วโมง สถานีควบคุมข่าย จ.ราชบุรี ไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้

ท่ามกลางชั่วนาทีแห่งความเป็นความตาย เจ้าหน้าที่แห่งศูนย์สายลมที่เป็นศูนย์กลางประสานงานกรณีภัยพิบัติซึ่งกำลังว้าวุ่นใจก็พลันได้ยินเสียงหนึ่งซึ่งดังขึ้นมา

“เรียกศูนย์จากสายลม วีอาร์ 009”

เจ้าหน้าที่ทุกคนต่างสงบคำและตั้งใจฟังเสียงเจ้าของสัญญาณเรียกขานวีอาร์ ๐๐๙ ซึ่งให้คำแนะนำซึ่งนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเรื่องสัญญาณขาดหาย กระทั่งสามารถสื่อสารกับคนในพื้นที่และช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยได้ในที่สุด


“ครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ทรงวิทยุติดต่อเข้ามา พระราชทานคำเเนะนำวิธีการติดตั้งข่ายสื่อสารเพื่อติดต่อระหว่างผู้ที่จะเข้าไปยังพื้นที่ว่า วิธีการที่น่าจะเป็นไปได้และทำได้ไม่ยากคือหารถที่มีวิทยุแล้วขับไปตั้งในที่สูงในจังหวัดราชบุรี ขณะเดียวกันด้วยเป็นพื้นที่ที่ประสบวาตภัยก็อาจจะเอารถเข้าไปไม่ได้ ควรจะเอามอเตอร์ไซค์เข้าไป แต่ที่สำคัญคือการเข้าไปอาจจะต้องใช้เวลาเยอะ ก็ต้องเตรียมแบตเตอรี่สำรองเข้าไป ให้หุ้มแบตเตอรี่ด้วยฉนวนเพื่อป้องกันไม่ให้ขั้วแบตเตอรี่โดนเหรียญหรือพวงกุญแจที่จะไปทำให้ขั้วเกิดความเสียหาย คือพระองค์ท่านทรงละเอียดรอบคอบมาก การดำเนินงานช่วยเหลือของกลุ่มนักวิทยุสมัครเล่นประสบความสำเร็จได้ด้วยดี"
คุณมนัส ทรงแสง อดีตรองอธิบดีกรมไปรณีย์โทรเลข และอดีตรองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ รำลึกถึงเหตุการณ์แห่งความทรงจำที่มีต่อ “วีอาร์ 009” หรือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งแสดงถึงพระอัจฉริยภาพทางด้านการสื่อสารของพระองค์

“ผมสามารถกล่าวได้ว่ากิจการวิทยุสมัครเล่นเกิดขึ้นได้เพราะพระองค์ท่าน ซึ่งเป็นบิดาแห่งวิทยุสื่อสารของไทย พระองค์ท่านทรงสนพระทัยการติดต่อสื่อสารทางวิทยุในเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น ทรงทดลองการเเพร่กระจายคลื่นวิทยุเเละการรับสัญญาณด้วยพระองค์เอง”




เมื่อกรมไปรษณีย์โทรเลขได้ก่อตั้งชมรมวิทยุอาสาสมัครหรือเรียกย่อเป็นภาษาอังกฤษว่า VR (วีอาร์) ขึ้น กรมไปรษณีย์โทรเลขจึงได้ทูลเกล้า ถวายสัญญาณเรียกขาน วีอาร์ 009 เเด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 5 ธันวาคม 2524

นอกจากพระอัจฉริยภาพอันมากล้น อดีตรองอธิบดีกรมไปรณีย์โทรเลขยังกล่าวอีกว่า พระองค์ยังทรงเป็นตัวอย่างที่ดีมากในแง่ของความมีระเบียบวินัย

“เหตุการณ์ที่แสดงถึงความมีระเบียบวินัยของพระองค์ท่านคือเมื่อครั้งการจัดกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 13 ที่พระองค์ท่านทรงแนะนำการติดตั้งมิเตอร์เสร็จเรียบร้อย ก็ติดต่ออยู่ 2-3 วันจึงได้ทรงถามว่าความถี่ของสายลมที่ใช้ในการประสานงานรายงานผลการแข่งขันกีฬานั้นเป็นข่ายราชการของสายลมหรือของกระทรวงคมนาคม เพราะการใช้คอร์ไซน์ “วีอาร์” ในข่ายสายลมเพื่อใช้ในการรายงานผลเช่นนั้นไม่ถูกกฎหมาย ผมจึงกราบทูลไปว่า พล.ต.ต.สุชาติ เผือกสกนธ์ท่านเตรียมข่ายสายลมไว้ให้พระองค์ท่านแล้ว คือ “สายลม 09” ทูลเกล้าฯ ถวายพระองค์ท่านไว้เรียบร้อยแล้ว และสามารถใช้ได้เลย หลังจากนั้นพระองค์ท่านก็จะใช้ข่าย สายลม 09 ตลอด หากเป็นข่ายสมัครเล่นก็จะใช้ข่าย วีอาร์ 009 คือพระองค์ท่านจะไม่เคยพลาดใช้สลับช่องไปใช้วีอาร์ในข่ายสายลมเลยซักครั้ง” คุณมนัสกล่าว


“นอกจากนั้นพระองค์ท่านทรงเป็นนักมอนิเตอร์ หรือนักเฝ้าติดตามเหตุการณ์ต่าง ๆ ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านพระราชทานการบ้านให้ดร.สุธี อักษรกิตติ์ ไปทำสายอากาศตามพื้นที่สูง เพราะพระองค์ท่านทรงต้องการติดตามฟังราชการที่คนในพื้นที่เขาปฏิบัติการกัน หรือใครที่เดือดร้อนหรือปัญหาอุปสรรคแล้วมีความช่วยเหลืออะไรบ้าง หากพระองค์ท่านทรงพอจะทำอะไรได้ ก็จะพระราชทานความช่วยเหลือให้เสมอ แม้กระทั่งตำรวจท่านก็ติดตาม หากขาดแคลนอะไรที่ท่านพอจะพระราชทานความช่วยเหลือหรือสนับสนุนได้ ท่านก็ทรงทำตลอดเวลา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่มีต่อพสกนิการชาวไทย รวมถึงกิจการวิทยุ โดยเฉพาะวิทยุสมัครเล่นอันหาที่เปรียบมิได้” คุณมนัสกล่าวปิดท้าย