มีความคืบหน้าไปมากสำหรับการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานต่างๆ รองรับการใช้สวัสดิการ ตาม โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ล่าสุด องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)เดินหน้าทยอยติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรออนิกส์(อีทิกเก็ต) เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยในโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ 7 จังหวัด ได้แก่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ นครปฐม และสมุทรสาคร ประมาณ 1.3 ล้านคน ได้ใช้บริการในเดือน ต.ค.นี้
สำหรับผู้มีรายได้น้อยใน 7 จังหวัดดังกล่าว กรมบัญชีกลาง ได้ออกประกาศเลื่อนกำหนดแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จาก 1 ต.ค. เป็น 17 ต.ค. 2560 เป็นต้นไป เนื่องจากติดปัญหา ขั้นตอนการผลิตบัตร ที่เพิ่มมากขึ้นจากการบันทึกข้อมูลสำคัญลงในชิพของบัตรทีละใบ ก่อนนำไปทดสอบกับเครื่องอ่านอีทิกเก็ต ซึ่งติดตั้งบนรถโดยสาร ขสมก. ตามมาตรฐานกลางระบบตั๋วร่วม หรือ บัตรแมงมุม
สำหรับวิธีการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ฝังชิปการ์ดระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ถือบัตรต้องนำบัตรของตนเองแตะลงบนเครื่องอ่านบัตรอัตโนมัติ จากนั้นระบบจะทำการหักเงินค่าเดินทาง จากยอดเงินคงเหลือตามที่รัฐบาลจัดสรรให้ คือ รถประจำทาง และรถไฟฟ้า 500 บาท รถไฟ 500 บาท บขส. 500 บาท
ส่วนแผนการติดตั้งเครื่องอ่านบัตรอัตโนมัติ จะนำร่องรถประจำทาง 800 คันครอบคลุม กว่า 70 เส้นทาง แบ่งเป็น ล็อตแรก 200 คันติดตั้งเสร็จก่อนสิ้นเดือน ก.ย.นี้ อีก 600 คันจะติดตั้งให้แล้วเสร็จใน 2 เดือนต่อจากนี้ไปหรือภายในเดือนพ.ย. 2560
นอกจากนี้ ขสมก. ยังได้ติดตั้งเครื่องเก็บค่าโดยสารหรือแคชบ็อก บนรถเมล์ของ ขสมก. ทั้้งปรับอากาศ และรถเมล์ร้อน จำนวน 2,600 คันภายในกลางปีหน้า
ตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีนี้เป็นต้นไป ประชาชนสามารถเลือกใช้บริการ รถประจำทาง ขสมก.ได้ ผ่าน 3 รูปแบบ คือ ระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์(อีทิกเก็ต)สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนผ่านโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ เครื่องเก็บค่าโดยสารหรือ แคชบ็อก และพนักงานเก็บค่าโดยสารสำหรับผู้ใช้บริการทั่วไป