การสัมภาษณ์งานแต่ละครั้งถือเป็นเรื่องท้าทายที่คนทำงานทุกคนต้องพบเจอกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จะพีคยิ่งกว่า ถ้าการสัมภาษณ์งานในครั้งนั้นต้องสนทนากันด้วยภาษาอังกฤษ เมื่อโอกาสดี ๆ มาถึง ก็ต้องลองดูกันสักตั้ง ก้าวข้ามอุปสรรคของกำแพงด้านภาษาไปให้ได้ เปิดสัปดาห์การทำงานกันด้วย 3 เทคนิคดี ๆ มาแนะนำ เพื่อให้การสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีสะดุด
ภาพ baranq / Shutterstock.com
1. เตรียมความพร้อม
เตรียมตัวดี ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง เตรียมตัวที่ว่านี้ นอกจากปลุกตัวเองให้มีกำลังใจ มีไฟในการสัมภาษณ์งานแล้ว ยังต้องเตรียมความพร้อมด้านข้อมูลไม่ต่างจากการสัมภาษณ์งานด้วยภาษาไทยตามปกติ ทำการบ้านให้ดีเกี่ยวกับ profile บริษัท รวมไปถึงรายละเอียดเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่สมัคร ให้เข้าใจ concept หลักเสียก่อน อย่างน้อยการเตรียมพร้อมก็จะช่วยให้เราสามารถไปสัมภาษณ์งานได้อย่างมั่นใจมากขึ้น แถมยังช่วยให้ความรู้สึกประหม่าและความตื่นเต้นลดน้อยลงไปอีกด้วย
2. ฝึกซ้อมเพิ่มความมั่นใจ
ขั้นตอนต่อไปคือการเก็งข้อสอบ ลองฝึกตอบคำถามสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษให้คล่อง ร่างแนวคำตอบที่คาดว่าจะต้องถูกถามในห้องสัมภาษณ์แน่ ๆ ออกมา ถ้าจะให้มั่นใจยิ่งขึ้น ก็ให้เพื่อนพี่น้องหรือคนรู้จักที่เก่งภาษาอังกฤษช่วยดูรูปประโยค ไวยากรณ์ และการใช้ศัพท์ให้ถูกต้องเหมาะสมอีกครั้ง ที่เหลือก็คือฝึกพูดให้คล่องปากอย่างมั่นใจ มาดูกันว่าบทสนทนาในหัวข้อสำคัญ ๆ ที่ควรเตรียมตัวไว้มีอะไรบ้าง
- Greetings, Introducing and Breaking the Ice! เจอกันครั้งแรก ตามมารยาทที่ดีก็ต้องทักทายกัน แต่นอกจาก Good morning / Good afternoon กันแล้ว เพิ่มลูกเล่นให้น่าสนใจอีกนิด เพื่อให้การสัมภาษณ์งานอยู่ใน mood & tone ที่สบาย ๆ ไม่เคร่งเครียดจนเกินไป และทำให้ผู้สัมภาษณ์งานอยากทำความรู้จักกับเรามากขึ้น ด้วยประโยคต่อไปนี้
“Good morning! First of all, thank you for the opportunity to introduce myself. My name is …”
- Education & Experiences in University บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติการศึกษา และประสบการณ์ในรั้วมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงานที่แรก ผู้สัมภาษณ์งานอาจต้องการฟังเรื่องราวประสบการณ์วัยเรียนที่เพิ่งผ่านมาสด ๆ ร้อน ๆ หรือประสบการณ์ด้านการฝึกงาน ต้องพยายามสื่อสารออกไปเกี่ยวกับสิ่งที่เราได้เรียนรู้ทั้งจากในและนอกห้องเรียน และต้องมีความเชื่อมโยงกับตำแหน่งงานที่เราสมัครด้วย
“I graduated from … University, majoring in …(วิชาเอกที่จบ)… While at the university, I was a member of the …(ชมรมที่เคยทำกิจกรรม)… club where I enjoyed a lot of activities. I was an intern at …(สถานที่ฝึกงาน) as a …(ตำแหน่งที่ฝึกงาน)… where I learned about teamwork and leadership.”
- Professional Experiences บอกเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์การทำงานอย่างมืออาชีพด้วยประโยคดังนี้
“I am currently working at …(ชื่อบริษัท)… as a …(ตำแหน่ง)…I enjoy my responsibilities, including …(หน้าที่รับผิดชอบ)…”
ภาพ Photographee.eu / Shutterstock.com
ในสถานการณ์จริงแล้ว รูปแบบประโยคที่ยกตัวอย่างอาจไม่ใช่ pattern ที่ตายตัวเสมอไป ต้องอาศัยไหวพริบในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วย ที่สำคัญต้องจำ keywords ให้ได้ และเรียบเรียงประโยคให้ฟังง่าย ถ้าทำได้ก็ไม่ยากที่จะสื่อสารกันได้อย่างแน่นอน นอกจากหัวข้อสัมภาษณ์งานที่ยกตัวอย่างข้างต้น อาจเตรียมคำตอบเกี่ยวกับจุดแข็ง-จุดอ่อนของตนเอง (strengths / weaknesses) ความสนใจเกี่ยวกับตำแหน่งที่สมัคร (Why are you interested in this position?) เหตุผลที่บริษัทควรรับเราเข้าทำงาน (Why should we hire you?) หรือแม้แต่การวางแผนอนาคตทั้งระยะสั้นและระยะยาว (future plan / aim in life) เป็นต้น
3. ผ่อนคลายเป็นตัวของตัวเอง
นอกจากเตรียมตัวทำการบ้านมาเป็นอย่างดี มีแนวทางการตอบอย่างชัดเจนแล้ว เพิ่มความเป็นธรรมชาติและความเป็นตัวของตัวเองลงไปในการตอบคำถาม หลีกเลี่ยงการตอบแบบท่องจำ ใช้ภาษาและประโยคง่าย ๆ แต่สามารถสื่อสารได้ตรงจุดและเข้าใจตรงกันทุกฝ่าย แถมท้ายด้วยการแต่งกายให้สุภาพเพื่อความเป็นมืออาชีพ ดูน่าเชื่อถือ และส่งเสริมบุคลิกภาพได้อย่างน่าประทับใจ
ภาพ imtmphoto / Shutterstock.com
จุดประสงค์หลักของการสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษก็คือ บริษัทต้องการจะดูว่าความสามารถในการใช้ภาษาของเราอยู่ในระดับไหน และตรงกับที่ลงรายละเอียดไว้ในเรซูเม่หรือไม่
แต่ไม่ว่าจะสัมภาษณ์งานเป็นภาษาใด หัวใจสำคัญก็คือโอกาสที่เราจะได้ขายของ โฆษณาตัวเองว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมกับงานอย่างไรได้อย่างเต็มที่
โดยทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและความเป็นตัวตนของเรา Just speak out! – แค่พูดออกไปค่ะ รับรองว่าไม่ยากเกินความสามารถเราอย่างแน่นอน
แหล่งข้อมูล : britishcouncil.or.th, jobsDB.com