สธ.ชี้ไข้หวัดใหญ่เอช1เอ็น1อัตราตายสูง

2017-09-02 22:00:10

สธ.ชี้ไข้หวัดใหญ่เอช1เอ็น1อัตราตายสูง

Advertisement

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ยืนยันหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตในศูนย์อพยพ จ.ตาก ไม่ใช่ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ด้าน รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ย้ำปีนี้ครบรอบการระบาดใหญ่ เฝ้าระวังมาตั้งแต่ต้นปี ชี้สายพันธุ์ เอช1เอ็น1 อัตราการตายสูง   


เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายอำเภอท่าสองยาง จ.ตาก สั่งปิดพื้นที่พักพิงชั่วคราวผู้หนีภัยการสู้รบ บ้านแม่หละ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก เพื่อทำความสะอาดและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ เนื่องจากมีหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดใหญ่ โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 2 จ.พิษณุโลก ตรวจยืนยันว่าเป็นเชื้อไวรัสเอช1เอ็น1



นพ.สุขุม กาญจนพิมาย อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตรวจสอบแล้วไม่ได้เป็นเขื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แต่อย่างใด ยังเป็นสายพันธุ์ที่มีการระบาดตามปกติ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาได้มีการฉีดวัคซีนป้องกันให้กลุ่มเสี่ยง แต่กรณีคนต่างด้าวตามชายขอบอาจจะไม่ได้รับการดูแลตรงนี้



นพ.สุชาติ พรเจริญพงศ์ ผอ.รพ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่เอช1เอ็น1หรือไข้หวัดใหญ่ 2009 คนส่วนหนึ่งมีภูมิคุ้มกันอยู่แล้ว พบได้ตลอดทั้งปี กรณีหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิตเนื่องจากอยู่ในค่ายอพยพ พฤติกรรมสุขภาพอาจจะไม่แข็งแรงอยู่แล้ว



ด้าน นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ “นิว18” ว่า ปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นและระบาดรุนแรงเพราะครบรอบการระบาดใหญ่ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้มีการเฝ้าระวังและป้องกันมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ตัวเลขผู้ป่วยในขณะนี้ถือว่ายังใกล้เคียงกับปีที่แล้วไม่ได้สูงจนเกินไป

นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค


“สายพันธุ์ที่ระบาดยังคงเป็นเอช 3เอ็น2 ซึ่งพบผู้ป่วยมากกว่าสายพันธุ์อื่น แต่ความรุนแรงอาจจะไม่เท่าสายพันธุ์ เอช1เอ็น 1 หรือไข้หวัดใหญ่ 2009 ผู้เสียชีวิตครึ่งหนึ่งมาจากสายพันธุ์นี้ สำหรับประเทศเพื่อนบ้านของไทยก็เจอสายพันธุ์ เอช1เอ็น1 แต่อาจจะไม่มีการตรวจยืนยันและไม่มีการรายงาน ทั้งนี้ที่ผ่านมาไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 ก็เปลี่ยนนิดเปลี่ยนหน่อย ซึ่งได้มีการเปลี่ยนตัววัคซีนเพื่อให้ตรงตามสายพันธุ์ที่ระบาด ”นพ.ธนรักษ์ กล่าว

นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า กรณีหญิงตั้งครรภ์เสียชีวิต ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจ เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ติดเชื้อแล้วมีโอกาสเกิดภาวะรุนแรง โดยเฉพาะติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ผ่านมาจึงมีการรณรงค์ให้มาฉีดวัคซีน ดังนั้นหากรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ อายุครรภ์มากกว่า 3 เดือน ให้ไปฉีดวัคซีนป้องกัน และหากมีอาการป่วยให้รีบไปพบแพทย์ทันที




จากข้อมูลเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข  พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2560 - 28 ส.ค.2560 พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 85,290 ราย จาก 77 จังหวัด คิดเป็นอัตราป่วย 130.36 ต่อแสนประชากร เสียชีวิต 12 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ 15-24 ปี (13.00 %) 10-14 ปี (10.99 %) 25-34 ปี (10.27 %) สัญชาติไทยร้อยละ 97.6 อื่น ๆ ร้อยละ 1.7

สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่ควรฉีดวัคซีน ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ,หญิงตั้งครรภ์,เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี ,ผู้มีโรคเรื้อรัง ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน ,บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป,ผู้มีน้ำหนักตัว มากกว่า 100 กิโลกรัม,ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้,ผู้ป่วยโรคธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง  

ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขเริ่มให้บริการฉีดวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.- 31 ส.ค. กลุ่มเสี่ยงสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลของรัฐใกล้บ้านฟรี โดยวัคซีนที่ฉีดให้ครั้งนี้ ประกอบด้วย 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ A Michigan (เอช1เอ็น1) สายพันธุ์ A Hong Kong (เอช3เอ็น2) และสายพันธุ์ B Brisbane (ออสเตรเลีย)



ปิดศูนย์อพยพสาวท้องติดหวัดมรณะ http://www.newtv.co.th/news/5015