"นิว18"เปิดใจที่นี่ที่เดียว ของจริง "แก๊งสไปเดอร์แมนฮ่องกง" ปีนตึกไทยไร้ตัดต่อ วอนพี่น้องชาวไทยเข้าใจไม่ต้องการสร้างความวุ่นวาย ยันฝึกฝนมาอย่างดีก่อนพิชิตภารกิจ เตือนอย่าเอาเป็นแบบอย่าง
จากกรณีโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพน่าหวาดเสียวของผู้ใช้อินสตาแกรมรายหนึ่ง ถ่ายเซลฟี่บนยอดตึกใบหยก พร้อมเช็กอินร่วมกับเพื่อนรวม 3 คน ระบุข้อความว่า “The highest point in Bangkok” หรือ “จุดที่สูงที่สุดในกรุงเทพฯ” นอกจากนี้ยังได้ถ่ายเซลฟี่ที่ “เทอมินอล 21” อีก 1 แห่ง
เมื่อมีข่าวเผยแพร่ออกไป ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาถึงความเหมาะสม รวมทั้งไม่รู้ว่าภาพที่ถ่ายนั้นเป็นภาพจริงหรือภาพตัดต่อ
น.ส.อรพิน เหตระกูล ผู้ดำเนินรายการ Infocus ทางสถานีโทรทัศน์นิว18 และผู้สื่อข่าวต่างประเทศ นิว18 ได้ติดต่อสัมภาษณ์พิเศษไปยังผู้ที่โพสต์อินสตาแกรมดังกล่าว ซึ่งใช้ชื่อแทนตัวเองว่า “แซม” หนุ่มชาวฮ่องกง ไม่ขอเปิดเผยชื่อแซ่ และอาชีพรวมทั้งประวัติส่วนตัว ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษ “นิว18” แบบหมดเปลือก
น.ส.อรพิน เกริ่นให้ฟังก่อนว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องราวใหญ่โตในประเทศไทยมีสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดย “แซม” ให้สัมภาษณ์ว่า เขากับเพื่อนในทีมรวม 3 คน ได้มาเที่ยวประเทศไทยแต่ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯแล้ว
ทำไมเลือก กทม.ในภารกิจครั้งนี้
แซม : เพราะพวกเราเป็นนักผจญภัยที่มีประสบการณ์ เดินทางไปยังตึกสูงมาแล้วหลายที่ ก็เลยวางเป้าหมายไว้ว่าต้องการมาพิชิตภารกิจตึกที่สูงที่สุดในกรุงเทพฯ
รู้สึกอย่างไรเมื่อขึ้นไปอยู่บนยอดตึกสูง
แซม: ทุกครั้งที่ขึ้นไปตึกสูง ผมและเพื่อนรู้สึกภูมิใจมาก พวกเรารู้ว่าไม่เคยมีใครทำแบบนี้มาก่อน ข้างบนวิวสวยมาก สุดยอด เป็นวิวที่ไม่เหมือนที่ไหนที่เคยไป
พวกคุณคงไม่รู้หรอกว่าภารกิจในครั้งนี้ได้รับความสนใจมากและถกเถียงกันมากว่าเป็นรูปตัดต่อหรือรูปจริง
แซม : ผมมาในครั้งนี้ ไม่ได้คาดหวังว่าจะสร้างกระแส หรือทำให้เกิดประเด็นอะไรขึ้นมา เพราะการปีนตึกในแต่ละประเทศ พวกเราก็ไปแบบเงียบ ๆ แอบขึ้นไป ภาพที่ถ่ายยืนยันว่าเป็นภาพจริง พวกเราถ่ายด้วยความสามารถที่ปีนขึ้นไปได้
รู้สึกกลัวหรือไม่ในการปีนตึกสูง ทำไปได้อย่างไร
แซม : ก็รู้สึกกลัวเป็นบางครั้ง แต่ได้ตั้งเป้าหมายและทำให้ตรงตามเป้าหมาย ยืนยันว่าได้มีการฝึกฝน ฝึกซ้อม มีการคำนวณ เกี่ยวกับเทคนิคการปีนเขา การปีนหน้าผา และทุกภารกิจจะคำนวณอัตราเสี่ยงภัย และอันตรายที่เกิดขึ้น คำนวณทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะลดความเสี่ยงไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ และตึกที่ปีนก็ต้องไม่ได้รับผลกระทบด้วย
จากประสบการณ์ปีน ตึกสูงที่ไหนประทับใจที่สุด
แซม : ตึกผิงอันไฟแนนซ์เซ็นเตอร์ที่เซินเจิ้น ประเทศจีน
อยากจะบอกอะไรกับคนไทย
แซม:ผมเห็นคอมเม้นท์ด้านลบ ก็อยากชี้แจงด้วยเสียงอันดังว่า ผมขอเป็นตัวแทนของเพื่อนอีก 2 คน ว่า การปีนยอดตึก หรือ “roofftopping”ไม่ได้อันตรายถึงชีวิต
“ทุก ๆ กีฬา ทุก ๆ การแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขา การขับรถ การขี่จักรยานผาดโผนล้วนมีอันตรายถึงชีวิตได้ พวกเรารู้อยู่แล้วว่าผลที่ตามมาเป็นอย่างไร หากเราตกหรือเราพลาด แต่พวกเราก็พยายามอย่างมากที่สุดที่จะลดปริมาณความเสี่ยงหรือลดปัจจัยที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ พวกเรา 3 คน มีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ที่จะพิชิตภารกิจเหมือนกับที่นักกีฬาต้องการชนะในการแข่งขัน ดังนั้นผมจึงอยากทำความเข้าใจกับพี่น้องคนไทยว่า พวกเราไม่ได้ต้องการสร้างความวุ่นวาย พวกเราแค่ต้องการที่จะไล่ล่าพิชิตเป้าหมายตามจุดมุ่งหมายของเราเท่านั้น อยากย้ำว่า นี่คือจุดสำคัญที่สุดที่อยากให้คนไทยเข้าใจ สิ่งคัญที่สุด คือ คนไทยอย่าทำตามเด็ดขาด เพราะว่า พวกเราผ่านการฝึกฝนการปีนผา ผ่านการซ้อมและมีประสบการณ์มามาก ดังนั้นอย่าเอาพวกเราเป็นแบบอย่าง เพราะก่อนลงมือปฏิบัติภารกิจเราต้องคำนวณทุกครั้งเนื่องจากมันอันตราย”
“แซม”กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า อยากให้หยุดตรวจสอบเขา เพราะมันคงไม่เกิดประโยชน์ ไม่อยากให้คนไทยเห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องลบ หวังว่าคุณอรพินจะช่วยผมในการเปลี่ยนทัศนคติในเรื่องนี้ พร้อมขอบคุณทิ้งท้ายแบบขำ ๆ ว่า เราไม่ได้ทำอะไรพังนะ
ขณะที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ตึกใบหยก ระบุว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลทุกทาง สันนิษฐานว่าคนที่ปีนขึ้นไปเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ลักลอบขึ้นไปทางบันไดหนีไฟ ซึ่งตามกฏของตึกสูงบันไดหนีไฟจะขึ้นไปถึงดาดฟ้า คิดว่ากลุ่มดังกล่าวน่าจะลักลอบขึ้นไปทางนั้น ซึ่งทางตึกจะตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิดดูอีกครั้ง เพื่อดูว่าเป็นภาพจิรงหรือไม่ อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าหากเป็นช่องทางปกติ จะให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปแค่ดาดฟ้าชั้น 84 เท่านั้น และหากไปต่อจากนั้นจะต้องมีการ์ดที่สามารถผ่านเข้าไปได้
ตึกใบหยก
ส่องวิวทิวทัศน์กรุงเทพมหานคร
3หนุ่ม บนตึกใบหยก
ตึก Terminal21
ตึกผิงอันไฟแนนซ์เซ็นเตอร์ที่เซินเจิ้น ประเทศจีน 
ตึกผิงอันไฟแนนซ์เซ็นเตอร์ที่เซินเจิ้น ประเทศจีน