เนื่องในวันแม่แห่งชาติปีนี้ เรานำบทสัมภาษณ์แสนประทับใจของ แม่ลูก คู่สนิท “แหวน- ฐิติมา สุตสุนทร และ ปันปัน-เต็มฟ้า กฤษณายุธ” ที่เคยลงใน นสพ. new)108 เมื่อวันแม่ปี 59 กลับมาให้ได้อ่านกันอีกครั้ง แม้ตัวคุณแม่จะจากไปแล้ว แต่เรื่องราวความรักความผูกพันที่มีให้กับผู้เป็นลูกจะยังคงตราตรึงในหัวใจของแฟนเพลงและผู้อ่านทุกคนไปอีกนานเท่านาน
การเลี้ยงดูน้องปันปัน
เราให้เขาทำทุกอย่างเลยตั้งแต่เด็กๆ พอดีปันปันเขาชอบทำอะไรทุกอย่างเลย เราสนับสนุนเต็มที่ ทุกสิ่งอย่างที่เขาเรียน เขาอยากทำไม่เคยบังคับ ให้อิสระเต็มที่ ทั้งเรียนเต้น ว่ายน้ำ เปียโน บัลเล่ต์ ไอซ์สเก็ต ยิมนาสติก เรียนจนได้แข่งเป็นนักกีฬาทีมชาติ ซึ่งเขาก็สามารถทำได้ดี ในขณะที่การเรียนเขาก็ไม่ทิ้งด้วย ไม่ว่าลูกจะไปเรียนที่ไหน เราจะเป็นรับส่งลูกตลอด ไม่เคยมีความคิดว่าเหนื่อยเลย การที่นั่งอยู่ในรถกับปันปัน มันทำให้เราได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน ได้พูดคุย ได้แชร์ประสบการณ์ของกันและกัน ทำให้เราได้สนิทกันมากขึ้น ส่วนเรื่องนิสัยใจคอ เราก็จะพูดจะสอนไปด้วย แต่คุณพ่อของปันปัน จะมีส่วนช่วยในเรื่องนี้มาก เรื่องของการประพฤติตัว ศีลธรรม เพราะประสบการณ์ที่เขาเคยมีมาพบเจออะไรมาเยอะ
ปันปันอึดอัดไหมที่คุณแม่ยังไปรับไปส่งอยู่
ปันปัน: ไม่เลยค่ะ ชอบนะ สบายดี (หัวเราะ) เดินทางเองเหนื่อยมาก
ยุคโซเชียลทำให้ดูแลยากลูกยากขึ้นบ้างไหม
แหวน: เป็นความโชคดี ที่ปันปันเขามีอะไรทำเยอะ เลยไม่ค่อยมีเวลาว่างที่ต้องอยู่หน้าจอคอมฯ ไม่มีเวลาติดโลกโซเชียล เลยไม่ต้องห่วงเรื่องนี้มาก
จากนักกีฬามาเป็นนักแสดง
แหวน : ที่ตัดสินใจออกจากการเป็นนักกีฬาเพราะว่าหนักมาก แล้วเขาได้ทุนเรียนดีที่โรงเรียนอินเตอร์ ซึ่งขาดเรียนบ่อยไม่ได้ นั่นนะสิ มาได้ยังไงก็ไม่รู้ (หัวเราะ) เคยไปเทสละครแล้วเหมือนกัน แล้วช่วงที่เรียนอยู่ทางเอ็กแซ็กท์เขาก็ชวนไปเรียนการแสดงตอนปิดเทอม ซึ่งปันปันเขาก็ชอบเรื่องการแสดงด้วย คือเราไม่ได้สอนเขาเรื่องนี้ หลังจากเลิกเล่นยิมนาสติกก็มีเวลาให้ การแสดงมากขึ้น ทางเอ็กแซ็กท์ ก็จัดละครเรื่องแรกให้สำหรับนักแสดงหน้าใหม่ ปันปัน แสดงคู่กับ แกงส้ม (The Star) ชื่อว่า บ่วงรัก
ปันปันแบ่งเวลาเรียนกับทำงานอย่างไร
แหวน: เราบอกปันปันเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเรื่องเรียนสำคัญที่สุด แล้วก็โชคดีที่น้องเขาเป็นคนที่ชอบเรียนมาก ตอนนี้เขาแบ่งเวลาให้กับการเรียน 4 วัน จันทร์-พฤหัสบดี ถ่ายละคร 3 วัน ศุกร์-อาทิตย์
เลือกรับงานละครให้ปันปันอย่างไร
แหวน: สิ่งแรกเลยดูเวลาก่อน ที่ไม่ติดสอบติดเรียน แล้วดูบทที่เหมาะกับเขา ถามตลอดว่า ลูกชอบไหมแล้วก็ปรึกษาทางค่าย คนที่ติดต่อมาส่วนใหญ่ก็ตรงกับคาแรกเตอร์เขา
ในวงการบันเทิงแหวนได้สอนอะไรให้ปันปันบ้าง
แหวน: เรื่องการแสดงเราไม่ค่อยได้สอนเท่าไร สิ่งที่สอนเป็นประจำคือ เรื่องทำตัวให้ดี เป็นเด็กเคารพผู้ใหญ่ เจอผู้ใหญ่แล้วแล้วต้องอย่าลืมไหว้เด็ดขาด และรับผิดชอบงาน ซึ่งเขาก็มีความรับผิดชอบดีอยู่แล้ว
แล้วแหวนวางแผนอนาคตให้ลูกอย่างไร
แหวน: แล้วแต่เขาเลย เพราะเราก็ตามใจเขามาตลอด เพียงแต่เราแค่ประคับประครองเขาไปให้ถึงฝั่งเท่านั้นเอง
ปันปันทำงานหนักมาก แหวนอยากบอกอะไรลูก
ปันปัน: ความจริงไม่ต้องบอกแล้วนะ เพราะสิ่งที่เราได้บอกไปเยอะแล้ว ต่อไปนี้ให้เขานำสิ่งที่เราบอกไปปฏิบัติ ในขณะเดียวกันเราก็เหมือนเพื่อนที่จะคอยอยู่เคียงข้างเขาไปตลอดเหมือนกัน
ปันปันห่วงอะไรคุณแม่ไหม แล้วอยากขออะไรจากคุณแม่
แหวน: อยากให้คุณแม่ดูแลสุขภาพตัวเองด้วย ดูแลปันปันแล้ว ก็ดูแลตัวเองให้มากๆ ค่ะ ส่วนเรื่องที่อยากขอก็คงเป็นเรื่องขับรถ อยากมีใบขับขี่ขับรถเอง แต่ตอนนี้ยังไม่มีเวลาไปเรียนเลย แต่บางทีก็ชอบนะคะที่มีคุณแม่ขับรถไปรับไปส่งไม่เหนื่อยด้วย
ปันปันโตเป็นสาวแล้วมีหนุ่มๆ เข้ามาบ้างไหม
แหวน: ก็มี
แล้วช่วยปันปันสกรีนหนุ่มๆ อย่างไร
แหวน: ให้เขาเลือกเองค่ะ เราได้แต่บอกว่า ให้เขาเลือกคนที่จริงใจกับเรา รักเราให้เต็มร้อย อย่ามองคนที่ภายนอก
ฝากถึงคุณแม่ยุคใหม่ในการเลี้ยงดูลูก
แหวน: ช่วงเด็กๆ ควรให้เวลากับเขาให้มากๆ ให้เขารู้สึกถึงความเป็นครอบครัว แต่พอเขาโตขึ้นก็ค่อยๆ ปล่อยเขาให้ได้อิสระ เราต้องทำตัวเป็นเหมือน ทั้งแม่ และเพื่อน เป็นที่ปรึกษา ให้กำลังใจ เป็นทุกอย่างให้เขา แล้วก็สอนให้เขารู้ว่า อันไหนดี อันไหนไม่ดี ต้องรู้จักจิตใจของเขา อย่าบังคับเขา เพราะเราเลี้ยงเขาได้ระดับหนึ่งที่จะอยู่กับเรา พอโตเขาต้องลุยชีวิตเขาเอง เมื่อเขาโตแล้วจะดีหรือไม่ดีอยู่ที่เขาตัดสินใจ เพราะฉะนั้นวัยเด็กจึงเป็นช่วงที่สำคัญมากปลูกฝังสิ่งดีๆ ให้เขา แล้วจะติดอยู่กับตัวเขาตลอดไป
ขอขอบคุณภาพจาก @waenthitima