ผู้ตรวจการแผ่นดินยกคำร้องการพิจารณาตรวจสอบการจัดซื้อเรือดำน้ำ
โดยเห็นว่าขั้นตอนการจัดซื้อไม่เข้าข่ายตามมาตรา 178
และไม่ตรงตามที่ผู้ร้องยื่นว่าผิดลักษณะการใช้งบประมาณ
เมื่อวันที่ 26
ก.ค. นายรักษเกชา แฉ่ฉาย โฆษกสำนักผู้ตรวจการแผ่นดิน
แถลงว่ากรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการองค์การพิทักรัฐธรรมนูญไทย
ร้องเรียนเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ระหว่างรัฐบาลไทย และ รัฐบาลจีน
ซึ่งมีการร้องขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือ ศาลปกครอง
พิจารณาว่าการจัดซื้อดังกล่าวไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณหรือไม่ จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงทางผู้ตรวจการแผ่นดินเห็นว่า
กองทัพเรือ ได้เสนอการจัดซื้อเรือดำน้ำไว้ในคำของบประมาณ 2560 ภายใต้แผ่นยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ
และภายหลังจากที่มีการผ่านงบประมาณ 2560
มีผลบังคับใช้เมื่อ 1 ต.ค. 2559
สำนักงบประมาณได้รวบรวมรายการก่อหนี้ผูกพันของส่วนราชการเสนอให้ ครม.พิจารณา
อันรวมถึงการจัดซื้อเรือดำน้ำด้วย และ ครม.ได้มีการเห็นชอบระยะที่ 1 ในการจัดซื้อเรือดำน้ำ
เมื่อวันที่ 25 ต.ค.2559 ซึ่งเป็นไปตามกรอบ 60วัน พร้อมกันนี้
ครม.ยังได้นำความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาและกระทรวงการต่างประเทศ
ที่มีความเห็นว่า ข้อตกลงการจัดซื้อเป็นลักษณะเชิงพานิชย์
ไม่อยู่ในข้อบังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่เข้าข่ายลักษณะหนังสือสัญญาตามมาตรา
178 ผู้ตรวจการแผ่นดินจึงยุติการพิจารณาเรื่องร้องเรียน
เนื่องจากไม่มีปัญหาตามที่ผู้ร้องยื่นในมาตรา 230 และ 231