เส้นทาง”บิ๊กแป๊ะ” จาก ผบ.ตร.สู่เสนาบดี !?
แข่งเรือแข่งพายแข่งได้แต่แข่งบุญวาสนาในยามนี้..ใครอย่าไปคิดสู้ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร.คนที่ 11 ของประเทศไทย เชียวล่ะ..
บุญวาสนาอย่างเดียวไม่พอ...ฝีไม้ลายมือการทำงานก็จัดว่าไม่ธรรมดา เหนืออื่นใดเหตุปัจจัยต่างๆทางภววิสัยนี่เป็นปัจจัยเอื้อและเกื้อหนุนให้ลูกชายคุณพ่อประณีต ชัยจินดา คนนี้เสียเหลือเกิน..
หากยังจำกันได้ ตอนแต่งตั้งโยกย้ายปลายปี
2558 คู่ชิง ผบ.ตร.คนที่11 ต่อจาก พล.ต.อ.สมยศ
พุ่มพันธุ์ม่วง มีถึง 4 คน
เรียงตามลำดับอาวุโส คือ 1)พล.ต.อ.เอก
เอกอังสนานนท์
2)พล.ต.อ.พงศพัฒน์ พงศ์เจริญ 3)พล.ต.อ.วุฒิ
ลิปตพัลลภ และ 4)พล.ต.อ.จักรทิพย์
ชัยจินดา
นอกจากอาวุโสการเข้าสู่ตำแหน่งจะไม่ได้เปรียบคนอื่นแล้ว ยังอาวุโสรุ่นน้อยกว่าคนอื่นด้วย เพราะ "บิ๊กแป๊ะ” เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจ(นรต.)รุ่น 36...แต่ก็อย่างที่รับทราบกัน อาวุโสไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาด ต้องดูความรู้ความสามารถและผลงานด้วย ซึ่งขณะนั้น พล.ต.อ.เอกก็ดูมีภาษีอยู่ไม่น้อยเพราะกำลังทำคดีโรฮิงจาเข้าตากรรมการ(นายกรัฐมนตรี)อยู่พอดี แต่อาจเป็นเพราะ "รองเอก" ไม่ได้เป็นศิษย์เก่า นรต.หรือเปล่าก็ไม่ทราบ ในท้ายที่สุดคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ที่มี พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กุมบังเหียนอยู่ ก็มีประกาศิตให้ "บิ๊กแป๊ะ" เป็นผบ.ตร.
เป็นผบ.ตร.ตั้งแต่1 ต.ค.2558 ถ้าอยู่จนเกษียณก็แปลว่าเป็น ผบ.ตร.ยาวนาน 5 ปี เพราะ "บิ๊กแป๊ะ" เกษียณ 30 ก.ย.2563 ซึ่งสภากาแฟวางเดิมพันกันมากว่า...สุดท้ายแล้ว พล.ต.อ.จักรทิพย์จะอยู่ยาวจนถึง 2563 หรือไม่..!?
ว่ากันว่านอกจากคุณสมบัติ
คุณลักษณะของ”บิ๊กแป๊ะ” ที่เป็นมือประสานสิบทิศ
เข้าได้กับทุกฝ่าย
เข้าใจเหตุบ้านการเมือง
รู้ทิศทางลมต่างๆดีแล้ว
ความเป็นนรต.36 ก็เป็นเสาค้ำอำนาจให้กับ”บิ๊กแป๊ะ” เช่นเดียวกัน
เพราะนรต.36 ก็มาจากเตรียมทหาร(ตท.)รุ่น20 รุ่นเดียวกับพล.ท.อภิรัช คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่1 ปัจจุบัน ตท.20 หากเป็นทหารบกก็คือ จปร.31
ปัจจุบันกำลังย่างสามขุมขึ้นคุมกองทัพ
ส่วน ตท.ที่เป็นตำรวจคือ นรต.36 นอกจาก "บิ๊กแป๊ะ" แล้วยังมีเพื่อนร่วมรุ่นพรึ่บพรับ อาทิ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาสบ.10,พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวส ผบช.ภ.1,พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผช.ผบ.ตร.,พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ศชต.,พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข,พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น ผบช.ภ.7 ฯลฯ ที่ "บิ๊กแป๊ะ" ยกทัพไปลุยคดีฆ่า 8 ศพน่ะแหละ ..!!
สำหรับ "บิ๊กแป๊ะ" ในปี 2560
นี้จัดว่า นอกจากฝีมือแล้วดวงชะตาก็ค่อนข้างเฮง...ไม่ต้องดูอื่นไกล..กรณีคดีวางระเบิด(การเมือง) 3 จุดทั้งหน้ากองสลาก,หน้าโรงและครแห่งชาติและโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
ก็สามารถจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้
ล่าสุดคดีฆ่าโหด 8 ศพ ที่กระบี่ ใช้เวลา 5 วันก็สามารถจับกุมคนร้ายได้ ทำให้ชาวบ้านแซ่ซ้องสรรเสริญ เรตติ้งกระฉูด
ขนาดสั่งรถขบวนให้หยุดขบวนแล้วตัวเองลงไปช่วยรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำกลางเมืองกระบี่เมื่อวันที่
16 ก.ค.สื่อมวลชนก็ยกให้เป็นฮีโร่..และแม้กระทั่งช่วยหยิบไมโครโฟนทีวีแต่ละช่องส่งให้ผู้สื่อข่าวหลังแถลง
บรรดาพ่อยกแม่ยกก็แห่กันส่งSMSชื่นชม..ผ่านจอทีวี
ทำอะไรๆในนาทีนี้ก็ดูเหมือนจะดีไปหมด..
อย่างไรก็ตามวันสองวันที่ผ่านมา จู่ ๆ นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ก็นำเสนอข่าวใหญ่โตว่าจะมีการปรับ ครม.กันเร็ว ๆ นี้ หนึ่งในโผครม.ระบุว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ จะลุกจาก ผบ.ตร.ไปนั่งเก้าอี้ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แทน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่จะลุกไปนั่งเก้าอี้รองนายกฯหรือ รมว.ยุติธรรม
อันทีจริงการคาดหมายว่า
“บิ๊กแป๊ะ”จะลุกจากเก้าอี้ ผบ.ตร.ก่อนกำหนด(2563)นั้นคาดหมายกันมานานแล้ว แต่ที่คาดหมายกันนั้นระบุว่าน่าจะเป็นปลายปี
2561 ลุกเพื่อเปิดทางให้ “บิ๊กปู”
พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ที่ พล.อ.ประวิตรให้การสนับสนุนอยู่เป็น ผบ.ตร.สัก
1 ปีก่อนเกษียณในเดือน ก.ย.2562
จะให้ "บิ๊กแป๊ะ"ลงจากเก้าอี้ปลายปี 2560 นี้เป็นเรื่องยากยิ่ง
ที่สำคัญแม้ส่วนลึก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาจต้องการปรับ ครม.ใหญ่สักครั้งหนึ่ง แต่คงไม่ใช่เดือนสองเดือนนี้ อย่างเร็วก็น่าจะหลังพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพช่วงปลายปีไปสักระยะหนึ่งก่อน..
สรุปว่าในอนาคตหรือปีหน้า
ถ้าปรับ ครม.โอกาสที่ "บิ๊กแป๊ะ" จะเป็นเสนาบดีก็มีสูง
ถ้าไม่ปรับ ครม.ก็เป็น ผบ.ตร.ต่อไปชิลๆอย่างน้อยก็ถึง 30 ก.ย.2561 ครบรอบ 3 ปีในการดำรงตำแหน่ง..ยาวนานกว่า ผบ.ตร.แทบทุกคน
หลังจากนั้นจะอยู่ในตำแหน่งไหนก็เป็นกำไรชีวิต..!!