เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีฆ่า
8 ศพ ภายในบ้านเลขที่ 14/3 หมู่ที่ 1 บ้านเขางาม ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่
ของ นายวรยุทธ สังหลัง อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ชุดสืบสวนที่รับผิดชอบตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของกลุ่มคนร้าย
เร่งตรวจสอบกล้องวงจร ตามเส้นทางถนนสายเซาท์เทิร์นซีบอร์ด ซึ่งเป็นถนนสายหลักเชื่อมระหว่างถนนเพชรเกษม
กับถนนสายเอเซีย เนื่องจากการสอบสวนพยานแวดล้อมพบเบาะแส ว่า ห้วงเวลาหลังเที่ยงคืน
ได้ยินเสียงรถยนต์วิ่งตามกันไปตามถนนภายในหมู่บ้านมุ่งหน้าขึ้นถนนสายเซาท์เทิร์นซีบอร์ด
ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งเก็บภาพกล้องวงจรปิด สถานีบริการน้ำมัน
ร้านสะดวกซื้อบนถนนสายดังกล่าว ทั้งขามุ่งหน้า จ.กระบี่ และมุ่งหน้า จ.สุราษฎร์ธานี
นอกจากนี้ยังตรวจสอบสถานีบริการน้ำมัน
บนถนนสายเพชรเกษม ตลอดเส้นทางตั้งแต่ จ.ระนอง ไปถึง จ.ตรัง ส่วนถนนสายเอเซีย
ตรวจสอบตั้งแต่ จ.ชุมพร ไปจนถึงเขตรอยต่อ จ.พัทลุง
เนื่องจากคาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะมีการจอดพักรถ เติมน้ำมัน เข้าห้องน้ำ หรือ ซื้ออาหารรับประทาน
ส่วนกรณี นายเชษฐ์ดนัย
ถิ่นพังงา เจ้าของบริษัทกระบี่ภูมิทรัพย์อนันต์ จำกัด และเป็นเพื่อนสนิทของ
นายวรยุทธ สังหลัง หรือ ผู้ใหญ่บัด ที่เข้าพบนายตำรวจระดับสูงคนหนึ่ง ยังยืนยันความบริสุทธิ์ใจ
และชี้แจงว่าภายในบริษัทไม่เคยมีความขัดแย้ง โดยในปี 2555 หจก.แห่งหนึ่งได้รับประทานบัตรให้ดำเนินกิจการเหมืองหิน ตามประทานบัตรเลขที่
24001/16007 ในพื้นที่เขาโนราห์ หมู่ 2 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ บนเนื้อที่
62 ไร่ ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ 25 ต.ค. 2555 – 24 ต.ค. 2565 หลังจากได้รับประทานบัตร
หจก.ดังกล่าวได้เข้าดำเนินการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม แต่ถูกชาวบ้านในพื้นที่คัดค้าน จนกระทั่งต่อมากรมศิลปากร
ได้ขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งโบราณคดี เพราะพบภาพเขียนบนเขาหินปูน
บนหน้าผาของเขาโนราห์ จนนำไปสู่การระงับโครงการจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ ระหว่างที่กำลังดำเนินการจัดทำรายงานสิ่งแวดล้อม ได้มีการจัดตั้งบริษัทเข้ามาเป็นบริษัทเช่าช่วง และมอบหมายให้ นายวรยุทธ เป็นผู้ดำเนินการติดต่อกับหน่วยงานราชการ ในลักษณะตัวแทนบริษัท และเป็นที่มาของประเด็นการสอบสวนว่า นายวรยุทธ รับเงินจากนายทุนมาเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านเห็นด้วยกับการทำเหมืองหิน และยืนยันว่าไม่มีประเด็นเงิน 50 ล้านบาทจากนายทุนอย่างแน่นอน
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ตำรวจตรวจสอบทุกประเด็นว่ามีเหตุจูงใจในเรื่องใดบ้าง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน จึงยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ส่วนที่จะเป็นคนมีสีในพื้นที่หรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ ทราบว่าแต่งกายคล้ายทหาร ซึ่งคนที่แต่งตัวคล้ายก็มีจำนวนมาก เชื่อว่าตำรวจทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่ คดีอื่นๆ ที่ผ่านมาตำรวจก็ทำได้
