พ่ายรักเฉือนทิ้งเจ้าโลก!! สิงห์ขี้คุกคลั่งรักสาวเซเว่นฯ ได้คำตอบชัดมีลูกและสามีแล้ว ปิดห้องมีดเฉือนเจ้าโลก ปาดคอคว้านท้องซ้ำไส้ทะลักอาการสาหัส
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยใต้เต็กตึ๊ง เขตพื้นที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุคนคลุ้มคลั่งทำร้ายตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัสเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 44/1 หมู่ 9 ต.สำเภา อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช จึงนำกำลังรีบรุดไปตรวจสอบ โดยเมื่อถึงบ้านที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บเป็นชายทราบชื่อนายเรวัตร เพชรนุ้ย หรือ “เณรสุทธิ์”อายุ 41 ปี อาศัยอยู่บ้านเกิดเหตุ สภาพนอนหงายหัวเข่าชันบนพื้น เลือดไหลนองท่วมตัว ไม่สวมเสื้อผ้า นุ่งกางเกงในสีน้ำตาลตัวเดียว ตรวจสอบพบบาดแผลบริเวณลำคอ อวัยวะเพศ ถูกของมีคมบาดเป็นแผลเลือดไหลอาบ ส่วนบริเวณท้องถูกของมีคมแทงเป็นแผลลึกไส้ทะลักออกมา นอนหายใจรวยรินจมกองเลือด อยู่ภายในห้องนอน ใกล้ผู้บาดเจ็บพบมีดคัตเตอร์เปื้อนเลือดยาวประมาณ 1 คืบตกอยู่ 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะนำส่ง รพ.สิชล ให้แพทย์เยียวยาช่วยเหลืออาการยังร่อแร่
จากการสอบถามญาติ ๆ ของผู้บาดเจ็บทราบว่าเมื่อกว่า 10 ปีก่อน นายเรวัตร ผู้บาดเจ็บ เคยก่อเหตุฆ่าคนตาย 2 ศพ ถูกจับกุมต้องโทษอยู่ในเรือนจำในข้อหาฆ่าคนตายนานกว่า 10 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาได้ประมาณ 2 ปี โดยผู้บาดเจ็บมีการอาการเหม่อลอย ชอบพูดคนเดียว และเก็บตัวเงียบ ไม่สุงสิงกับใคร ก่อนเกิดเหตุช่วงเช้าที่ผ่านมา ญาติ ๆ เห็นว่าผู้บาดเจ็บ ไม่ออกจากห้องนอนเหมือนทุกวัน จึงไปเคาะประตูเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ ญาติจึงตัดสินใจพังประตูห้องนอนเข้าไป และพบผู้บาดเจ็บนอนจมกองเลือด จึงขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่ง รพ.
ในขณะที่นางสมบูรณ์ เพชรนุ้ย อายุ 70 ปี แม่ของนายเรวัตร ผู้บาดเจ็บ เล่าว่า สมัยเรียนหนังสือบุตรชายของตน เป็นเด็กดี และเรียนหนังสือเก่งมาก เดินทางไปเรียนในระดับอุดมศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่ตนมาทราบภายหลังว่า นายเรวัตร บุตรชายไปติดยาเสพติดและเสพยาอย่างหนักจนเกิดอาการหลอน ตนจึงไปรับกลับมาอยู่บ้านและตนเคยพาไปรักษาที่โรงพยาบาลและแพทย์ให้กินยาระงับประสาทแต่บุตรชายไม่ค่อยชอบกินยาระงับประสาท โดยจะแอบทิ้งยาเป็นประจำ และทราบว่าบุตรชายยังแอบเสพยาเสพติดอีกครั้ง จนเมื่อประมาณ 12 ปีที่ผ่านมานายเรวัตร บุตรชาย เสพยาเสพติดจนเกิดอาการหลอนก่อนก่อเหตุใช้อาวุธมีดฆ่าปาดคอชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกันตาย 2 คน ทั้ง ๆ ที่บุตรชายของตนกับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางหรือมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน
หลังก่อเหตุนายเรวัตร บุตรชาย ถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย และต้องโทษติดคุกที่เรือนจำนาน 10 ปีเศษ อย่างไรก็ในช่วงที่บุตรชายรับโทษในเรือนจำ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้รักษาอาการอย่างต่อเนื่อง จนเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาบุตรชายของตนพ้นโทษจากเรือนจำและกลับมาอยู่ที่บ้านช่วยครอบครัวทำสวนยางพารา ตามปกติจะไม่ชอบสุงสิงกับใคร ชอบเก็บตัวอยู่เงียบ ๆ คนเดียว ส่วนสาเหตุที่คลุ้มคลั่งทำร้ายร่างกายตัวเองอย่างสยองขวัญในครั้งนี้ตนไม่ทราบแน่ชัด คาดว่านายเรวัตร บุตรชาย อาจกินยาระงับประสาทไม่ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามตนทราบจากญาติๆว่า บุตรชายของตนไปแอบชอบสาวทำงานร้านเซเว่น สาขาหนึ่งใน อ.สิชล โดยจะชอบไปซื้อของในร้านเซเว่นฯ สาขาดังกล่าวเป็นประจำ และล่าสุดได้เขียนข้อความจดหมายสารภาพรักกับสาวเซเว่น ฯ แต่ถูกสาวปฏิเสธโดยสาวเซเว่น ฯเขียนข้อความใส่แผ่นกรเดาษแจ้งกับนายเรวัตรว่า ตัวเองไม่สามารถรับรักนายเรวัตรได้ เนื่องจากมีลูกมีสามีแล้ว ทำให้นายเรวัตร เกิดความเสียใจ น้อยใจและเครียดอย่างหนัก เก็บตัวเงียบในห้องก่อนตัดสินใจก่อเหตุใช้มีดคัตเตอร์ปาดคอ คว้านท้องและเฉือนเจ้าโลกทิ้งสุดสยองขวัญดังกล่าว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้ลูกชายเกิดความเครียดอย่างหนักและก่อเหตุดังกล่าว.