ไม่ลืม! "เจมส์ เรืองศักดิ์" ระลึก20ปี เหตุเครื่องบินตก

2018-11-03 12:51:49

ไม่ลืม! "เจมส์ เรืองศักดิ์" ระลึก20ปี เหตุเครื่องบินตก

Advertisement

นักร้อง-นักแสดง  "เจมส์ เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์" โพสต์อินสตาแกรมส่วนตัว เผยความรู้สึกเมื่อ 20ปี ที่ประสบเหตุเครื่องบินตก ที่ จ.สุราษฎร์ธานี และรอดชีวิตมาได้ ในขณะที่ผู้ประสบเหตุด้วยกันเสียชีวิตไปเกินครึ่งลำ โดยเจ้าตัวรอดชีวิตพร้อมกับ "น้องอาร์ม" ในเหตุการณ์ครั้งนั้น






20ปีที่แล้ว หลังเหตุการณ์เครื่องบินตก มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อ “น้องอาร์ม” เด็กน้อยชาวสุราษฏร์ ที่โชคดีเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตในเที่ยวบินนั้นกับผม... ครอบครัวของน้องเล่าว่า น้องอาร์มเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย...วันเกิดเหตุเครื่องตกเป็นวันที่ครอบครัวตั้งใจจะพาน้องกลับไปบ้านเกิดเพื่อให้น้องได้จากไปอย่างสงบที่บ้านเกิดของตัวเอง...แต่โชคชะตาก็พลิกผัน...เมื่อน้องอาร์มกลับรอดอย่างปาติหาริย์ในครั้งนั้น.. ผมจำได้ว่าหลังเป็นข่าวได้สักพัก...สื่อก็ได้พูดถึงเด็กคนหนึ่งที่เขาอยากเจอพี่เจมส์เรืองศักดิ์มาก...ผมได้เจอน้องครั้งแรกที่ รพ เด็กในตอนนั้น...น้องยังเหมือนเด็กปกติ ยังเล่น ยังพูดคุยหัวเราะกับผมได้..น้องชอบเพลงชับ ชับ ชับ วันนั้นเรายังร้องเพลงนี้กันลั่น รพ ... ผมนำตุ๊กตาหมีใส่เสื้อสีฟ้า...ตัวโปรดของผมไปมอบให้น้องเพื่อเป็นกำลังใจให้น้องอาร์มที่ รพ ด้วย... แต่หลังจากนั้นไม่นาน..ผมทราบข่าวว่ารัฐบาลเยอรมันรับน้องไปรักษาที่โน่นเป็นกรณีพิเศษ...ที่สถาบันมะเร็งที่มีชื่อเสียงของเยอรมัน เพราะข่าวน้องเป็นมะเร็งและรอดจากเครื่องบินตกโด่งดังไปทั่วโลก





และเเล้ววันนึง ผมก็ได้รับการติดต่อจากทางรัฐบาลเยอรมัน.ประสานผ่านรัฐบาลไทยว่า น้องอาร์มกำลังตกอยู่ในอาการโคม่าขั้นสุดท้าย...และน้องก็พูดแต่อยากพบ พี่เจมส์ เรืองศักดิ์ จนคุณหมอที่สงสัยว่าผมคือใคร... ...หมอมีความหวังว่าอาจเกิดปาติหาริย์หากผมได้มาพบน้อง...เหมือนที่เคยเกิดขึ้นแล้วครั้งหนึ่งที่สถาบันมะเร็งแห่งนี้...เมื่อครั้งที่เด็กน้อยชาวเยอรมันป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย..และเขาอยากพบ นักมายากลเดวิด คอปเปอร์ฟิล...และเดวิดก็ไปพบ ทำให้เด็กคนนั้นอาการกลับมาดีขึ้น... เมื่อทราบเรื่องผมจึงตัดสินใจอย่างไม่ลังเล...ที่จะบินหลาย ช.มไปพบน้องที่เยอรมัน (ทั้งๆที่ผมเองก็ยังอยู่ในช่วงหวาดผวา กับการขึ้นเครื่องบินอย่างหนัก เพราะเหตุการณ์เพิ่งผ่านมาไม่นานนัก) ในภาพที่เห็นคือวินาทีที่ผมได้พบน้องที่นั่น...น้องขยับตัวไม่ได้แล้ว ชีพจรเกือบหยุดเเล้ว..ร่างกายแทบไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น..ตอบสนองแทบไม่ได้..แต่ปาติหาริย์ก็เกิดขึ้นช่วงสั้นๆ...เมื่อผมร้องเพลงชับชับชับ และลุกขึ้นเต้น ให้น้องดู... ชีพจรน้องกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง... เหมือนน้องดีใจที่ผมมาจริงๆ วันนั้นเป็นการร้องเพลง ชับชับชับ ครั้งแรก...ที่ผมเต้นและร้องอย่างสนุกสนานเพื่อหวังให้มีปาติหาริย์กับน้อง... ท่ามกลาง น้ำตาของทุกคนในห้องพยาบาลวันนั้นรวมทั้งตัวผม ... จากนั้นไม่นานน้องก็สิ้นลมหายใจจากพวกเราไปอย่างสงบ.... ถ้าวันนี้อาร์มยังอยู่ เขาคงมีอายุราวๆ 20ปลายๆ ผ่านมา 20ปีแล้วแต่ผมยังไม่เคยลืมภาพเหตุการณ์ในวันนั้นเลย