โวยม่านรูด! แอบถ่ายคลิป เผยแพร่ทางโซเชียล

2018-08-13 16:30:36

โวยม่านรูด! แอบถ่ายคลิป เผยแพร่ทางโซเชียล

Advertisement

หนุ่มใหญ่โวยโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ หลังแอบถ่ายคลิปขณะที่ตนกับแฟนเข้าไปใช้บริการ แล้วนำมาเผยแพร่ทางโซเชียล

เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายเอ (นามสมมุติ) หนุ่มชาว ต.ท่าพล อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ว่า ถูกแอบถ่ายขณะที่ตนกับแฟนไปใช้บริการม่านรูดแห่งหนึ่งแล้วนำมาเผยแพร่ในโซเชียลกลุ่มลับ พร้อมกับเตรียมแจ้งความกับเจ้าของรีสอร์ทดังกล่าว จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนทำงานอยู่ในธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ ได้รู้จักคบหาเป็นแฟนกับ น.ส.บี (นามสมมุติ) และได้พา น.ส.บี ไปใช้บริการรีสอร์ทลักษณะเป็นม่านรูดแห่งหนึ่ง อยู่ติดถนนบายพาสหลัง รพ.เพชรบูรณ์ ตั้งแต่ต้นปี 2560 ประมาณ 4 - 5 ครั้ง

โดยครั้งล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา และหลังจากเสร็จกิจแล้วตนจึงกลับมาบ้าน จากนั้นได้เปิดโทรศัพท์เล่นทวิตเตอร์ ปรากฎว่ามีผู้ใช้นามว่า “เสือน้อย” ได้โพสต์ภาพและข้อความ ตนจึงรับเป็นเพื่อนและเปิดเข้าไปดูพบว่าเป็นคลิปโป๊ และต้องตกใจเมื่อเห็นว่าคลิปดังกล่าวเป็นภาพของตนกับ น.ส.บี กำลังมีเพศสัมพันธ์กันภายในรีสอร์ทม่านรูดดังกล่าว จากนั้นตนจึงเลื่อนไปดูคลิปอื่นๆ ก็แทบช็อกเมื่อพบว่าเป็นภาพของตนกับ น.ส.บี กว่า 100 คลิป ลักษณะเป็นการตัดต่อให้อยู่ในสถานที่ต่างๆ เช่น กลางแจ้ง กลางป่า รวมทั้งลักษณะเซ็กซ์หมู่




สาเหตุที่ตนมั่นใจว่าเป็นภาพของตนเองกับ น.ส.บี ทั้งๆ ที่ไม่เห็นหน้า เนื่องจากตนจำลักษณะร่างกายของตัวเองได้ จำนาฬิกา แหวน แผลเป็นบริเวณหน้าท้อง และเสื้อผ้าของ น.ส.บี สวมใส่ขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ ตนจึงมั่นใจว่าคลิปดังกล่าวต้องมาจากรีสอร์ทม่านรูดที่ตนไปใช้บริการอย่างแน่นอน จึงได้โทรศัพท์ไปพูดคุย แต่ผู้ดูแลรีสอร์ทกลับขอชื่อ ที่อยู่และเลขบัตรประชาชนของตนเอง โดยอ้างว่าจะนำไปให้ลูกน้องซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ตรวจสอบก่อน ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย อีกทั้งตนเป็นผู้เสียหายทำไมจะต้องถูกตรวจสอบด้วย และรีสอร์ทม่านรูดดังกล่าว ก็ไม่ให้คำอธิบายแก่ตนเองแต่อย่างใด ตนเห็นว่าการกระทำของรีสอร์ทม่านรูดดังกล่าว เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งตนก็ยังไม่ฟันธงว่ารีสอร์ทม่านรูดเป็นผู้กระทำ แต่อาจจะมีขบวนการที่ไปแอบติดกล้องไว้ภายในห้องก็เป็นได้ แต่เมื่อยังไม่มีคำอธิบายตนจึงจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับรีสอร์ทม่านรูดดังกล่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวมาสอบสวนต่อไป และนอกจากนั้นตนก็จะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์ภาพคลิปวีดีโอดังกล่าวในข้อหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ต่อไปด้วย

นายเอ กล่าวในตอนท้ายว่า ในวันพรุ่งนี้ (14 ส.ค.) ตนจะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ โดยการประสานงานของทีมทนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ จากชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และจะมีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เพราะตนเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวต้องเป็นขบวนการ โดยมีการซื้อ-ขายคลิปที่แอบถ่ายจากรีสอร์ท ม่านรูดต่าง ๆ แล้วนำไปตัดต่อและเผยแพร่ในกลุ่มลับอย่างแน่นอน