ซัด “เสี่ยอ้วน”ลั่นไก 2 ศพ “ไอ้บ่าว”ยิงซ้ำให้ตายชัวร์

2018-08-08 11:55:53

ซัด “เสี่ยอ้วน”ลั่นไก 2 ศพ “ไอ้บ่าว”ยิงซ้ำให้ตายชัวร์

Advertisement

ตำรวจคุมตัว “ไอ้บ่าว” ทำแผนพร้อมจำลองเหตุการณ์สังหารโหด 2 ศพเขาชีจรรย์ สารภาพ “เสี่ยอ้วน”จ่อยิงศีรษะ “น้องสปาย” ก่อนเล็งกระบอกปืนไปยิง “น้องฟอส”ที่พยายามวิ่งหนี จากนั้น “ไอ้บ่าว” กระหน่ำยิงทั้งคู่เพื่อให้แน่ใจว่าทั้งตายแล้ว รอง ผบ.ตร. ระบุชนวนสังหารโหดมาจากปมชู้สาว เผยรู้ที่กบดาน “เสี่ยอ้วน”แล้วอยู่บริเวณชายแดนประเทศกัมพูชา แต่ยังไม่ได้ควบคุมตัว



จากกรณีคนร้ายก่อเหตุอุกฉกรรจ์ใช้อาวุธปืนยิง นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ น้องฟอส อายุ 21 ปี และ น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ น้องสปาย อายุ 20 ปี ชาว อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา บริเวณลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเข้าชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยคดีนี้มีผู้ต้องหา 6 ราย ตำรวจสามารถจับกุมได้แล้ว 5 ราย เหลือผู้ต้องหาคนสำคัญ คือ นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ “เสี่ยอ้วน” อายุ 39 ปี อยู่ระหว่างการหลบหนี



เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 ส.ค. ตำรวจ สภ.นาจอมเทียน ได้นำตัว นายณรงค์ วรินทรเวช หรือ บ่าว อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิง น้องสปาย อายุ 20 ปี และ น้องฟอส อายุ 21 ปี มาทำการชี้จุดเกิดเหตุประกอบสำนวนคดี รวม 5 จุด โดยจุดสำคัญคือบริเวณลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเข้าชีจรรย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่มีการปิดกั้นพื้นที่ตั้งเวลา 07.00 น. เพื่อจำลองเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ พร้อมกับนำรถยนต์ของผู้ต้องหาและรถยนต์ของผู้เสียชีวิตมาจอดไว้ในตำแหน่งที่เกิดเหตุด้วย ขณะเดียวกันได้นำตัวนายบ่าวมาที่เกิดเพื่อทำการชี้จุด ขนานกับการจำลองเหตุการณ์ ซึ่งอาสาสมัครที่ใส่เสื้อยืดสีขาวหมายเลข 1 แสดงเป็นเสี่ยอ้วน ถือปืน 2 กระบอก และหมายเลข 6 เป็นนายบ่าว หมายเลข 14 เป็นน้องสปาย หมายเลข 15 เป็นน้องฟอส ส่วนหมายเลขอื่นๆคือผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุ





นายบ่าวรับสารภาพเบื้องต้นว่า วันเกิดเหตุ เสี่ยอ้วนจ่อไปที่ศีรษะของน้องสปายก่อน และยิงน้องสปายทันที ซึ่งขณะนั้นน้องฟอสพยายามวิ่งหนี เสี่ยอ้วนจึงหันกระบอกปืนไปยิงน้องฟอส จากนั้นนายบ่าวได้ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงน้องสปายและฟอสอีกจำนวนหลายนัด เพื่อให้แน่ใจว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว ก่อนทีมสังหารทั้งหมดจะนำอาวุธปืนไปทิ้งที่ข้างทางรถไฟใกล้ สภ.ภูตาหลวงและหลบหนีไปทันที



ด้าน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า จากคำให้การของนายบ่าวมือยิง ได้ให้การไปในทิศทางใกล้เคียงกันกับผู้ต้องหาก่อนหน้านี้ โดยมีการระบุว่า ปมก่อเหตุครั้งนี้คือปมชู้สาว ซึ่งนายบ่าวถูกเสี่ยอ้วน ว่าจ้างให้ลงมือก่อเหตุในราคา 5 หมื่นบาท พร้อมยอมรับว่ารู้ข้อมูลก่อนการลงมือยิงทั้งหมด โดยเสี่ยอ้วน และ นายจิรศักดิ์ อุนัยบัน หรือ ป๊อปปี้ นั่งเครื่องบินจาก จ.ภูเก็ต มาลงเครื่องที่สนามบินอู่ตะเภา จ.ชลบุรี เพียง 2 คนเท่านั้น ส่วนผู้ต้องหารายอื่นขับรถยนต์มาสมทบ ส่วนการติดตามตัวเสี่ยอ้วน ยืนยันว่าในขณะนี้ยังไม่สามารถควบคุมตัวได้ และยังไม่มีการประสานเข้ามอบตัว แต่ทางตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่จนพบข้อมูลและเบาะแสการหลบหนีของเสี่ยอ้วนแล้ว ว่าอยู่บริเวณชายแดนประเทศกัมพูชา แต่ยังไม่ได้ควบคุมตัว