ดิสนีย์งานเข้าโดนแฮคเกอร์เจาะขโมยหนังใหม่ ไพเรทส์ ออฟ ดิ เคริเบียน ที่กำลังจะเข้าโรงฉาย 26 พฤษภาคมนี้
กระแสของไวรัสและแฮคเกอร์ที่กำลังระบาดอยู่ตอนนี้ แพร่ระบาดเจาะไปทุกที่ จนแต่ละองค์กรกังวลด้านความปลอดภัย ล่าสุดกรณีของดิสนีย์ที่มีรายงานว่าถูกเจาะระบบและขโมยภาพยนตร์ออกมาขู่เรียกค่าไถ่แล้ว แม้ว่ากรณีนี้จะไม่ได้มีการระบุชัดว่าเป็นการเจาะระบบด้วย Wannacry อย่างที่ทั่วโลกกำลังเป็นห่วงอยู่ แต่ บ็อบ ไอเกอร์ ซีอีโอของวอลต์ ดิสนีย์ ได้ออกมายอมรับว่ามีแฮคเกอร์แอบอ้างว่าสามารถเจาะระบบเข้ามายังฐานข้อมูลของบริษัทตนเอง ให้ภาพยนตร์เรื่องไพเรทส์ ออฟ ดิ เคริเบียน ภาคล่าสุดที่กำลังจะเข้าฉายวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ และเรื่องคาร์ ภาค 3 ในกลางเดือนหน้า กลายเป็นตัวประกันที่ทางแฮคเกอร์ขู่ให้ดิสนีย์จ่ายเงิน มิฉะนั้นจะปล่อยหนังเหล่านี้ให้โลกออนไลน์ได้ชมกันฟรี ๆ แต่ทางดิสนีย์ยังยืนยันที่จะปฏิเสธการจ่ายเงินค่าไถ่ดังกล่าว และกล่าวว่ากำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานสืบสวนสอบสวนกลางของสหรัฐอยู่ เนื่องจากภาพยนตร์ดังกล่าวแม้คาดว่าจะทำรายได้ดีให้กับทางดิสนีย์ แต่กำไรจากเรื่องดังกล่าวน่าจะน้อยกว่า “สตาร์วอร์ส: เดอะ ลาสต์ เจได” หนังอีกเรื่องของดิสนีย์ที่จะออกฉายในวันที่ 15 ธันวาคม มาก กรณีนี้เองบริษัทผู้ให้บริการภาพยนตร์ออนไลน์อย่าง Netflix เคยโดนขู่เรียกค่าไถ่จากการแฮคระบบเข้าไปขโมยซีรีย์เรื่อง ออเร้นจ์ อิส เดอะ นิว แบล๊ค และให้ทางบริษัทจ่ายเงินในรูปแบบ Bitcoin หรือเงินในรูปแบบดิจิทัลเพื่อแลกกับการไม่ปล่อยในโลกออนไลน์ก่อนกำหนดฉายจริง การเจาะเข้าระบบเพื่อนำผลงานเหล่านี้มาเรียกค่าไถ่ยังมีอีกหลายหน่วยงานในฮอลลีวู้ดเฝ้าระวังเพราะเป็นเป้าหมายที่แฮคเกอร์ต่างหมายปอง
