หนุ่มจอมเตะขอขมาคุณตาซาเล้งรับผิดทุกอย่าง

2018-03-16 16:10:21

หนุ่มจอมเตะขอขมาคุณตาซาเล้งรับผิดทุกอย่าง

Advertisement

เจ้าของ“ศักดิ์สิทธิ์อัลลอย” พร้อมพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง พาตัว “จ๊อด” ขอขมาเตะคุณตาขี่ซาเล้ง หนุ่มเลือดร้อนยอมรับผิดทุกอย่าง ด้านลูกสาวไม่ถือโทษ ยืนยันไม่ได้ทิ้งพ่อ ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายตลอด แต่ที่ออกไปขี่ซาเล้งเพราะห้ามไม่ฟัง



เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 มี.ค. นายธนะพัฒน์ วัชรฐิติเปรมชัย ผู้ก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์ อัลลอย พร้อมด้วย ร.ต.อ.รุ่งศักดิ์ นันตเวช พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เดินทางมายัง รพ.ราชวิถี พร้อมได้นำตัวนายนราธร โสตติยัง หรือ จ๊อด ผู้ต้องหาเข้าเยี่ยมอาการและกราบขอขมานายจรูญ มณีพันธ์ อายุ 82 ปี คนขี่ซาเล้งที่ถูกทำร้าย โดยนายนราธร กล่าวว่า ตนยอมรับผิดทุกอย่างในสิ่งที่ได้กระทำ ยืนยันว่าวันเกิดเหตุไม่ได้ดื่มสุราหรือของมึนเมา แต่ที่กระทำลงไปเพราะความโกรธที่นายจรูญไม่ให้ความสนใจจึงเกิดบันดาลโทสะและทำร้ายร่างกายนายจรูญ อย่างไรก็ตามรู้สึกผิดเป็นอย่างมากจึงเข้ามอบตัวกับเจ้าหนาที่ตำรวจ และในวันนี้ก็ตั้งใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพาเข้ามากราบขอขมานายจรูญที่ รพ. และรู้สึกดีใจที่นายจรูญให้อภัยตนแล้ว ยืนยันว่าไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมอย่างที่มีกระแสออกมา แต่เคยมีเพียงประวัติทะเลาะวิวาทเท่านั้น



ด้านนายธนะพัฒน์ กล่าวว่า หลังจากที่ได้ดูคลิปวิดีโอที่แชร์กันในโซเชียล ก็รู้สึกสงสารและไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับคนสูงอายุ ในวันนี้ได้เดินทางมาให้กำลังใจนายจรูญ และครอบครัว พร้อมมอบของที่ระลึกและเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้จากกระแสข่าวที่ออกมาว่านายจรูญ คือผู้ก่อตั้ง ศักดิ์สิทธิ์ อัลลอย ก่อนจะถูกเทคโอเวอร์กิจการจนทำให้ต้องมาประกอบอาชีพขี่ซาเล้งหาของเก่านั้น ขณะนี้ยังไม่พบประวัติของนายจรูญ คาดว่าอาจจะเคยร่วมงานกับทางบริษัทมากกว่า ซึ่งอาจจะนานมาแล้ว และก็ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกับทางครอบครัวของนายจรูญถึงเรื่องนี้แล้ว ซึ่งเชื่อว่า อาจจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนของบุตรสาวนายจรูญ ก็ไม่อยากให้ครอบครัวของนายจรูญเกิดความกังวลหรือเครียด เพราะทางบริษัทไม่ได้ต้องการที่จะกล่าวโทษหรือเอาผิดใดๆ





น.ส.วนิดา บุตรสาวของนายจรูญ กล่าวว่า จากที่ได้เคยให้ข่าวว่านายจรูญเคยเป็นผู้ก่อตั้งศักดิ์สิทธิ์อัลลอยนั้น เป็นเรื่องเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะตอนนั้นตนอายุเพียง 2 ขวบเท่านั้น โดยในวันนี้หลังจากที่เห็นนายนราธร ผู้ต้องหาเข้ามาขอขมานายจรูญ ก็รู้สึกดีใจที่ยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี และไม่ถือโทษใดๆ ทั้งนี้หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บของนายจรูญ และจัดการเรื่องคดีเรียบร้อยแล้วจะพานายจรูญกับไปอยู่ที่ จ.ลพบุรียืนยันว่าไม่ได้ทิ้งพ่อ ยังดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายอยู่ตลอด แต่ที่นายจรูญออกไปขี่ซาเล้งเป็นความต้องการของนายจรูญเอง ที่ค่อนข้างมีนิสัยดื้อรั้น ซึ่งตนและแม่เคยห้ามปรามแต่ก็ไม่ฟัง ยืนยันอีกว่า นายจรูญไม่ได้เป็นคนติดสุราและไม่เคยดื่มเหล้า เพียงแต่ติดบุหรี่เท่านั้น