ซีเรีย เลือดเย็น ถล่มพื้นที่กบฏทิ้งท้ายหนักหน่วงรุนแรง ก่อนยูเอ็นมีมติเรียกร้องให้หยุดยิง 30 วัน รวมตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการโจมตีต่อเนื่อง 6 วัน เกือบ 500 รายแล้ว ในจำนวนนี้ มีเด็กอย่างน้อย 99 ราย
กองทัพซีเรีย โหมปฏิบัติการโจมตีทางอากาศทิ้งระเบิดถล่มเขตกูตาตะวันออก ระลอกใหม่เมื่อวานนี้ ก่อนคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ลงมติเรียกร้องให้หยุดยิง 30 วัน เพื่อยุติหนึ่งในเหตุนองเลือดที่เลวร้ายที่สุดของสงครามกลางเมืองซีเรีย 7 ปี นับเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันแล้ว ที่เครื่องบินกองทัพซีเรียและพันธมิตร ทิ้งระเบิดถล่มพื้นที่ยึดครองของกบฏที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นในพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงดามัสกัส ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญแห่งสุดท้ายของกบฏ
พลเรือนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และอาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายหนักที่สุดในซีเรียตั้งแต่รัฐบาลซีเรีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ยึดพื้นที่ที่กบฏยึดครองในเมืองอาเลปโปจากการต่อสู้กันดุเดือดในปี 2559
กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในอังกฤษ แถลงว่า การโจมตีตลอด 6 วันที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 462 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ เป็นเด็กอย่างน้อย 99 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกหลายพันคน
ส่วนในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา มี 10 ประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า พวกเขาจะร่วมมือกันสนับสนุนร่างมติเรียกร้องให้หยุดความขัดแย้งในซีเรีย และต้องการผ่านความเห็นชอบมติดังกล่าวในวันศุกร์ (เมื่อวานนี้) ตามเวลาในสหรัฐ ทั้งนี้ กำหนดการลงมติในเวลา 11.00 น.ตามเวลาในสหรัฐ หรือ 23.00 น.ของคืนวานนี้ ตามเวลาในไทย ถูกเลื่อนออกไปเป็นเวลาบ่ายท่ามกลางการเจรจากันอย่างเคร่งเครียดในช่วงสุดท้ายเกี่ยวกับเนื้อหาของมติที่ร่างโดยสวีเดนและคูเวต