เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำครวญ “ตัวเหี้ย”สร้างความเดือดร้อนกินสัตว์เลี้ยงในบ่อจนเกือบหมด ล่าสุดฟาดปูทะเลไปเกือบหมดบ่อ ปล่อยปูไป 700 ตัว จับได้เพียง 20 ตัวเท่านั้น
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. นายพจน์ ทับประทุม หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าพันท้ายนรสิงห์ จ.สมุทรสาคร เปิดเผยว่า ในอดีตตัวเหี้ยหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าตัวเงินตัวทอง ถือเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากภาคอุตสาหกรรมเป็นอย่างมากเนื่องจากสามารถนำเนื้อไปประกอบเป็นอาหารได้ ส่วนหนังก็นำไปแปรรูปเป็นกระเป๋าและเข็มขัดได้ราคาสูง ทำให้กรมป่าไม้เกรงว่าตัวเงินตัวทองจะสูญพันธุ์ จึงประกาศให้ตัวเงินตัวทองเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกสัตว์เลื้อยคลานลำดับที่ 91 สงวน ห้ามเลี้ยง ซื้อ ขาย หรือครอบครอง ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 4 ปี ปรับ 40,000 บาท หรือต้องจำทั้งปรับ ชาวบ้านไม่กล้าทำอันตรายเพราะเกรงว่าจะทำผิดกฎหมาย ส่งผลให้ตัวเงินตัวทองเพิ่มจำนวนมากขึ้นใน จ.สมุทรสงคราม
นายพจน์ กล่าวต่อว่า ล่าสุดตัวเหี้ยสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำใน ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จึงประสานมาที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าพันท้ายนรสิงห์ ซึ่งได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จับตัวเงินตัวทอง โดยใช้วิธีวางแร้วดักจับในพื้นที่หมู่ที่ 2 และ หมู่ที่ 4 ต.ยี่สาร ผลปรากฏว่าจับตัวเงินตัวทองทั้งเพศผู้และเพศเมียได้ในวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา จำนวน 8 ตัว และยอดสะสมจากวันที่ 19 -22 ก.พ.ได้ตัวเงินตัวทองรวม 57 ตัว น้ำหนักแต่ละตัวอยู่ระหว่าง 3-10 กก. เพื่อนำไปปล่อยในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลตรวจสุขภาพพร้อมจะทำการตรวจสุขภาพหาโรคจนมั่นใจว่าปลอดภัยก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ
นายสุรินทร์ นุชเล็ก สมาชิกสภา อบต.ยี่สาร กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่ซึ่งมีอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เช่น ปู และปลา ในบ่อธรรมชาติ ต้องได้รับความเดือดร้อนจากตัวเหี้ย นี้ ที่ลงบ่อกัดกินสัตว์เลี้ยงในบ่อจนเกือบหมด ล่าสุดบ่อของตนในพื้นที่ 7 ไร่ปล่อยปูทะเลขนาด 10 ตัวต่อ กก. ลงไป 70 กก. หรือ ประมาณ 700 ตัว เลี้ยงไปกว่า 5 เดือนจับได้เพียง 20 ตัวเท่านั้น เนื่องจาก โดนตัวเหี้ยจับกินหมด ซึ่งชาวบ้านจะจับกันเองก็กลัวผิดกฎหมาย จึงต้องประสานให้นำเจ้าหน้าที่มาจับตัว เหี้ยไปครั้งนี้ก็ต้องขอขอบคุณที่มาช่วยเหลือชาวบ้านก่อนจะหมดตัวไปมากกว่านี้
