ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางพิพากษาให้ “มิตสุโตกิ ชิเกตะ” พ่อชาวญี่ปุ่น เป็นผู้ปกครองเด็ก13 คนเกิดจากการอุ้มบุญโดยชอบด้วยกฎหมาย ทนายความยันลูกความไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ แจงเหตุผลต้องการมีบุตรเยอะ เนื่องจากเกิดในครอบครัวใหญ่ อยากให้ลูกช่วยสานต่อธุรกิจของครอบครัว
เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลเยาวชน และครอบครัวกลาง พิพากษา ให้นายมิตสุโตกิ ชิเกตะ พ่ออุ้มบุญชาว ญี่ปุ่น เป็นผู้ปกครองเด็กทั้ง 13 คน ที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ หรือ อุ้มบุญ โดยในคดีนี้ นายมิตสุโตกิ ชิเกตะ พ่ออุ้มบุญชาวญี่ปุ่น ได้ว่าจ้างหญิงไทยให้ตั้งครรภ์บุตร หรือ อุ้มบุญ ตั้งแต่ปี 2556-2557 ก่อนที่ พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธ์ทางการแพทย์ พ. ศ. 2558 จะมีผลบังคับใช้ และมีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้เด็กทั้ง 13 คน เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ประกอบกับผลตรวจพิสูจน์ดีเอ็น ของนายมิตสุโตกิ ชิเกตะ พบมีสัมพันธุ์เป็นบิดาทางสายเลือด และที่ผ่านมานายชิเกตะได้รับอุปการะเลี้ยงดูด้วยดีตลอดมาและมอบหมายให้บุคคลเข้าเยี่ยมเด็กทั้งหมดในสถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ดและสถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์ เป็นประจำ
นอกจากนี้ ศาลยังพิเคราะห์พยานหลักฐาน แล้วเห็นว่า นายมิตสุโตกิ ชิเกตะ ยังเตรียมความพร้อมในการอุปการะเลี้ยงเด็กที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งที่พักอาศัย การศึกษา เงินอออมที่สะสมให้กับเด็กทั้ง 13 คน อย่างดี จึงมีคำสั่งให้ เด็กทั้ง 13 คน เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ของนายมิตสุโตกิ ชิเกตะ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์พ. ศ. 2558 มาตรา 56 โดยเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองแต่เพียงฝ่ายเดียว
นายก้อง สุริยมณฑล ทนายความของ นายมิตสุโตกิ ชิเกตะ ระบุว่า ศาลได้มีคำพิพากษาให้นายมิตสุโตกิ ชิเกตะ เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฏหมายและเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองแต่เพียงฝ่ายเดียว รวมถึงข้อเท็จจริงก็ยุติว่านายมิตสุโตกิ ชิเกตะ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ เพียงต้องการเลี้ยงดูและอุปการะบุตรทุกคน หลังจากนี้จะแจ้งไปยังนายมิตสุโตกิ ชิเกตะ ให้รับทราบ และประสานกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อรับเด็กทั้ง 13 คน ไปอยู่ในการดูแล ส่วนเด็กทั้งหมดจะใช้สัญชาติใด หรือ ไปอาศัยในประเทศกัมพูชา หรือ ประเทศญี่ปุ่น เป็นเรื่องที่นายมิตสุโตกิ ชิเกตะ จะเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ยืนยันว่าเหตุผลที่นายมิตสุโตกิ ชิเกตะ ต้องการมีบุตรเยอะ เนื่องจากเกิดในครอบครัวใหญ่ อยากให้ลูกเติบโตไปพร้อมกัน และช่วยสานต่อธุรกิจของครอบครัวต่อไป 