รมว.เกษตรฯ เตือนภาคเหนือเตรียมรับมือภัยแล้ง

2018-02-19 15:50:29

รมว.เกษตรฯ เตือนภาคเหนือเตรียมรับมือภัยแล้ง

Advertisement

รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมสัมมนาการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในระดับพื้นที่สู่การปฏิบัติ ภาคเหนือ พร้อมเน้นย้ำให้เตรียมรับมือปัญหาภัยแล้งและปัญหาหมอกควันจากไฟป่า ขณะเดียวกันสั่งการให้หน่วยงานเร่งสำรวจแหล่งน้ำเพื่อกักเก็บไว้ใช้ในฤดูแล้งแล้ว


เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก นายกฤษฎา บุญราช รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในการประชุมสัมมนา การขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในระดับพื้นที่สู่การปฏิบัติ ภาคเหนือ ทั้งนี้เพื่อเป็นการมอบนโยบายการทำงานให้แก่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรม ผ่านกลไกสำคัญคือ บุคลากรในพื้นที่ระดับจังหวัด จนถึงระดับตำบล นอกจากนี้ยังเป็นเวทีในการเชื่อมประสานนโยบายของกระทรวงฯ กับภาคส่วนอื่นที่จะร่วมกันขับเคลื่อน ภาคการเกษตรให้ระบบการผลิตและการตลาดมีความสอดคล้องสมดุลกัน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง โดยมีหัวหน้า และเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาร่วมประชุมทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ


นายกฤษฎา บุญราช รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ในวันนี้ได้เดินทางมามอบนโยบายให้แก่หน่วยงานในสังกัด เพื่อให้เกิดความเป็นรูปธรรม พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ลงพื้นที่บริการแก่เกษตรกรตามพื้นที่ต่างๆ อย่างใกล้ชิด โดยเน้นหลักการตลาดนำการผลิต โดยให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดประสานงานกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ในการชักจูงให้ภาคเอกชน มารับซื้อสินค้าของเกษตรกร โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ที่ให้เกษตรกรมารวมตัวกันผลิตสินค้าที่ลดต้นทุน แต่ถ้าผลิตสินค้าทางการเกษตรอะไรแล้ว ก็ควรมีผู้มารับซื้อ เช่น ที่จังหวัดพิษณุโลก ทางสำนักงานเกษตรและสหกรณ์ จ.พิษณุโลก ได้รายงานว่ามีเกษตรกรผลิตสินค้าตามโครงการเกษตรแปลงใหญ่แล้ว จำนวน 40 แปลง มีภาคเอกชนมารับซื้อแล้วกว่า 30 แปลง ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งโครงการนี้ก็จะขยายพื้นที่ออกไปจำนวนมาก


รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภาคเหนือ เตรียมรับมือกับภัยแล้ง และปัญหาหมอกควันจากไฟป่า ซึ่งกำลังเริ่มประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ โดยภัยแล้งนั้นให้หน่วยงานในสังกัดไปดูว่า มีจุดใดบ้าง ที่จะสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งนี้ได้บ้าง และมีจุดไหนบ้างที่ได้รับผลกระทบแล้วต้องประสานกับฝ่ายปกครองที่จะต้องเข้าไปเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ แต่ถ้าพูดถึงแหล่งน้ำตามแม่น้ำสายต่างๆ ที่กรมชลประทาน ดูแลนั้น ณ เวลานี้เมื่อเปรียบเทียบกับเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา ถือว่ามีปริมาณน้ำมากกว่า ถึงร้อยละ 40 ขณะเดียวกันในปีนี้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ส่งเสริมการปลูกพืชอายุสั้นหรือพืชใช้น้ำน้อย ประเภทถั่ว ปอเทือง เป็นต้น